เวียดนามเพิ่งประกาศผลการเติบโตที่น่าประทับใจในไตรมาสที่ 3 โดย GDP เพิ่มขึ้นประมาณ 8.23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นอัตราการเติบโตต่อไตรมาสที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 (ไม่นับรวมไตรมาส 3 ปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงฟื้นตัวหลังโควิด-19)
ตัวชี้วัดการเติบโตในเชิงบวกหลายด้าน
ตามรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม GDP ของเวียดนามในไตรมาส 3 ปี 2025 คาดว่าจะเติบโตขึ้น 8.23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แม้จะเผชิญแรงกดดันจากภาษีการส่งออกของสหรัฐฯ ที่เริ่มบังคับใช้ในช่วงกลางปี โดยรวมแล้ว GDP ในช่วง 9 เดือนแรกของปีเพิ่มขึ้น 7.85% โดยภาคอุตสาหกรรม–ก่อสร้างและภาคบริการยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโต ภาคอุตสาหกรรม–ก่อสร้างเติบโตประมาณ 8.69% ในขณะที่ภาคบริการขยายตัว 8.49% ส่วนภาคเกษตรกรรม ป่าไม้ และประมง แม้ได้รับผลกระทบจากพายุและน้ำท่วม แต่ยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่มั่นคงไว้ได้ที่ 3.83%
การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยดัชนีการผลิตอุตสาหกรรม (IIP) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 9.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ภาคการผลิตและการแปรรูป ยังคงเป็นกระดูกสันหลังของการเติบโต โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าหลัก เช่น อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องจักรกล
การผลิตเสื้อผ้าส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (ภาพจาก VNA)
การส่งออกยังคงแสดงผลลัพธ์ในเชิงบวก ดุลการค้าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 บันทึกการเกินดุลประมาณ 16.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การเติบโตของการส่งออกเกิดขึ้นในเกือบทุกกลุ่มสินค้า โดยเน้นที่ผลิตภัณฑ์หลัก เช่น สินค้าเกษตร อาหารทะเล และสินค้าอุตสาหกรรมแปรรูป
นอกจากนี้ มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) รวมคาดว่าจะอยู่ที่ 18.80 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี ผลลัพธ์ที่ดีเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจเวียดนามยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตได้อย่างมั่นคง แม้ในภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวน ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
แนวโน้มปลายปี 2025: มองบวกแต่ยังต้องระมัดระวัง
ตามรายงานของกระทรวงการคลัง ฉากทัศน์พื้นฐานตั้งเป้าอัตราการเติบโต GDP รายปีไว้ที่ 8% โดยการเติบโตในไตรมาส 3 อยู่ที่ 8.3% และไตรมาส 4 อยู่ที่ 8.5% ในฉากทัศน์ที่มองในแง่ดีมากขึ้น การเติบโตอาจแตะ 8.3–8.5% โดย GDP จะเกิน 510 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้ต่อหัวเกิน 5,020 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม องค์กรระหว่างประเทศบางแห่งให้การคาดการณ์ที่ระมัดระวังมากกว่า โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2025 จะเติบโตประมาณ 6.5% ขณะที่ธนาคาร UOB คาดไว้ที่ 7.5%
สำหรับนักลงทุน FDI ปี 2025 เต็มไปด้วยโอกาส แต่ก็ต้องอาศัยการประเมินอย่างรอบคอบ ภาคเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พลังงานหมุนเวียน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ การเลือกทำเลลงทุนที่มีที่ดินพร้อมใช้งาน ต้นทุนแรงงานแข่งขันได้ และมีการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานกับธุรกิจในประเทศ จะช่วยลดแรงกดดันด้านต้นทุน และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินและโลจิสติกส์
ดูเพิ่มเติม: เวียดนามทำสถิติส่งออกทะลุ 42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก – ขับเคลื่อนโดยคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์
ดูเพิ่มเติม: สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับธุรกิจ FDI ในเวียดนาม
