QUALITY GENERAL CONTRACTOR
RELIABLE PLATFORM FOR YOUR BUSINESS
QUALITY GENERAL CONTRACTOR
RELIABLE PLATFORM FOR YOUR BUSINESS

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการออกแบบและติดตั้งระบบ HVAC ในโรงงาน

ระบบ HVAC (Heating, Ventilation, and Air Conditioning) เป็นองค์ประกอบหลักในการสร้างสภาพแวดล้อมการผลิตที่มีเสถียรภาพและมีประสิทธิภาพในโรงงานอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดบางประการในการออกแบบและติดตั้ง อาจส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน คุณภาพการผลิต และอาจละเมิดข้อกำหนดตามมาตรฐานของรัฐ

1. การออกแบบระบบ HVAC ขาดความสอดคล้องกับสายการผลิต

ระบบ HVAC บางครั้งถูกวางแยกออกจากระบบสายการผลิตหลัก หรือไม่มีการเชื่อมโยงกับระบบอื่น เช่น ระบบป้องกันอัคคีภัย (PCCC), ระบบไฟฟ้า และระบบเครื่องกล สาเหตุหลักมักมาจากการสำรวจหน้างานที่ไม่เพียงพอ หรือโครงการถูกแยกออกเป็นหลายแพ็กเกจ โดยไม่มีหน่วยงานที่ดูแลด้านเทคนิคแบบองค์รวม

ผลลัพธ์ที่ตามมาคือค่าใช้จ่ายในการแก้ไขและปรับปรุงระบบ HVAC อาจเพิ่มขึ้น 1.5–2 เท่าหลังจากการก่อสร้างเสร็จสิ้น อีกทั้งการกระจายอุณหภูมิและทิศทางลมที่ไม่สม่ำเสมอยังส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์และทำให้ต้นทุนการบำรุงรักษาเครื่องจักรเพิ่มสูงขึ้น

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการออกแบบและติดตั้งระบบ HVAC ในโรงงาน

ระบบ HVAC ที่ติดตั้งสอดคล้องกับสายการผลิตอุปกรณ์ป้องกันกีฬาของ Dainese ซึ่งดำเนินการโดย Delco ในฐานะผู้รับเหมาหลักด้านการออกแบบและติดตั้งระบบ M&E

แนวทางที่มีประสิทธิภาพคือการกำหนดให้ผู้รับเหมาเข้าทำการสำรวจสายการผลิตอย่างละเอียด ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับระบบที่เกี่ยวข้อง และตรวจสอบแบบก่อนเริ่มงาน เพื่อให้มั่นใจว่าการออกแบบมีความสอดคล้องโดยรวม นอกจากนี้ ยังต้องมั่นใจว่าระบบ HVAC ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการออกแบบและติดตั้งของเวียดนาม เช่น TCVN 5687:2010 และข้อกำหนดด้านระบบป้องกันอัคคีภัย QCVN 06:2022/BXD

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการออกแบบและติดตั้งระบบ HVAC ในโรงงาน

ระบบ HVAC ควรปฏิบัติตามมาตรฐานการออกแบบและติดตั้ง รวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับ PCCC อย่างเคร่งครัด

ดูเพิ่มเติม: ปัญหาและความไม่เหมาะสมในการอนุมัติและการประเมินผลระบบป้องกันและระงับอัคคีภัยสำหรับภาคอุตสาหกรรมในปัจจุบัน

2. การเลือกโมเดล HVAC ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานจริง

การเลือกประเภทของระบบ HVAC เช่น VRV, Chiller, AHU หรือ Multi Split ที่ไม่ตรงกับความต้องการจริงของโรงงานอาจก่อให้เกิดปัญหาได้หลายประการ โดยเฉพาะเมื่อการตัดสินใจเน้นเพียงค่าใช้จ่ายเริ่มต้น โดยไม่ได้คำนึงถึง ต้นทุนรวมตลอดอายุการใช้งาน (TCO – Total Cost of Ownership) ซึ่งส่งผลให้เกิดการใช้พลังงานเกินงบประมาณ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและซ่อมบำรุงที่สูงขึ้น

ตัวอย่างเช่น ระบบ VRV เหมาะสำหรับสำนักงาน แต่ไม่เหมาะกับโรงงานที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงและมีโหลดความร้อนสูง ขณะที่ระบบ Chiller ที่ใช้ร่วมกับ AHU หรือระบบหล่อเย็นด้วยน้ำจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าและประหยัดมากกว่า หากได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานจริงในโรงงาน

ระบบ Multi Split อาจช่วยประหยัดต้นทุนการลงทุนและพื้นที่ติดตั้ง แต่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับโรงงานที่ต้องการความเย็นต่อเนื่องและมีโหลดความร้อนสูง เพราะประสิทธิภาพจะไม่เสถียรในสภาพแวดล้อมลักษณะนี้

ผู้ลงทุนควรขอให้ผู้รับเหมาทำการวิเคราะห์ TCO โดยอิงจากลักษณะการทำงานของโรงงาน พร้อมทั้งรับรองว่าระบบ HVAC ที่เลือกใช้สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานประสิทธิภาพพลังงานของเวียดนาม (MEPS)

3. ระบบไม่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมการผลิตได้ตามข้อกำหนด

ระบบ HVAC ที่ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น ความดัน หรือการกรองฝุ่นได้ตามมาตรฐานของกระบวนการผลิต โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร หรือยา มักเกิดจากการที่ระบบไม่ได้รวมเข้ากับระบบควบคุมและตรวจสอบอัตโนมัติ เช่น BMS/SCADA อย่างเหมาะสม

ผลกระทบคือ อัตราของเสียเพิ่มขึ้น การผลิตหยุดชะงักในพื้นที่ที่ต้องใช้ cleanroom และมีความเสี่ยงในการสูญเสียใบรับรองระดับสากล เช่น GMP, ISO หรือ HACCP ซึ่งส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือขององค์กร

แผงควบคุมระบบพัดลมระบายอากาศในโรงงาน PPT ซึ่งดำเนินการโดย Delco ในฐานะผู้รับเหมาหลักด้านการออกแบบและติดตั้ง

แผงควบคุมระบบพัดลมระบายอากาศในโรงงาน Power Plus Technology ซึ่งดำเนินการโดย Delco ในฐานะผู้รับเหมาหลักด้านการออกแบบและติดตั้ง

แนวทางแก้ไขที่มีประสิทธิภาพ คือ การออกแบบระบบ HVAC ให้สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรม พร้อมทั้ง ติดตั้งระบบ BMS/SCADA เพื่อควบคุมและตรวจสอบอัตโนมัติ และต้องผ่านการทดสอบระบบอย่างครบถ้วนก่อนนำไปใช้งานจริง นอกจากนี้ ต้องมั่นใจว่าระบบ HVAC สอดคล้องกับมาตรฐานคุณภาพอากาศภายในอาคาร เช่น TCVN 5687:2010 รวมถึงมาตรฐานสากลอย่าง ASHRAE หรือ CIBSE

4. การติดตั้งไม่เป็นไปตามมาตรฐานทางเทคนิค

การติดตั้งระบบ HVAC ที่ไม่เป็นระบบ เช่น การเดินท่อส่งลมหรือท่อสารทำความเย็นผิดประเภท, ไม่ได้ตรวจสอบระบบกันสั่น กันเสียง หรือผิดระดับ มักเกิดจากขั้นตอนการทดลองเดินระบบที่ขาดความละเอียด หรือไม่มีเอกสารการปฏิบัติงานที่ชัดเจน

สิ่งนี้นำไปสู่ปัญหา เช่น คอมเพรสเซอร์เสียหายก่อนเวลาอันควร, ค่าบำรุงรักษาสูงเนื่องจากต้องรื้อระบบซ่อมบ่อยครั้ง, และความเสี่ยงจากไฟไหม้หรือระเบิดหากเชื่อมต่อระบบผิดมาตรฐาน ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อกำหนดตาม QCVN 06:2022 หากการทดสอบระบบไม่มีเอกสารประกอบ เช่น บันทึกการเดินระบบ, การวัดค่ากระแสไฟฟ้า, อุณหภูมิ หรือความดัน จะทำให้ข้อบกพร่องที่แฝงอยู่ปรากฏภายหลัง 6–12 เดือน

ภาพระบบท่อส่งลมภายในระบบ HVAC

ภาพระบบท่อส่งลมภายใน ระบบ HVAC

ทางออกคือ ต้องกำหนดให้ผู้รับเหมาเดินระบบทดลองใช้งานพร้อมเอกสารครบถ้วน ตรวจสอบคุณภาพการติดตั้งอย่างละเอียด และต้องมีเงื่อนไขในสัญญาที่ครอบคลุมการทดสอบโหลดจริง 100% ก่อนส่งมอบ

5. ขาดกลยุทธ์ในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M)

การไม่มีขั้นตอนการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ที่ชัดเจน หรือการพึ่งพาผู้รับเหมาอย่างสมบูรณ์ มักเกิดจากการที่ผู้ลงทุนไม่ให้ความสำคัญกับเอกสารคู่มือและการฝึกอบรมทีมงานภายใน

ผลที่ตามมาคือ ค่าใช้จ่ายในการจ้างบริษัทภายนอกสำหรับงานบำรุงรักษาที่สูงขึ้น อุปกรณ์สูญเสียการรับประกันเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน และเกิดการสูญเสียพลังงานจากการไม่มีข้อมูลการใช้งาน ระบบที่ไม่มีประสิทธิภาพยังส่งผลให้การผลิตหยุดชะงักและเกิดความล่าช้าในการจัดการกับปัญหาต่าง ๆ

ระบบ HVAC จำเป็นต้องมีแผนงาน O&M ที่ชัดเจนเพื่อความเสถียรในระยะยาว

ระบบ HVAC จำเป็นต้องมีแผนงาน O&M ที่ชัดเจนเพื่อความเสถียรในระยะยาว

แนวทางที่มีประสิทธิภาพคือ กำหนดให้ผู้รับเหมาจัดเตรียมเอกสาร O&M อย่างละเอียด ครอบคลุมถึงตารางบำรุงรักษา, แผนที่เซ็นเซอร์, รายการตรวจสอบ (checklist) และจัดการฝึกอบรมทีมงานภายใน เพื่อลดการพึ่งพาจากภายนอก

ข้อเสนอแนะสำหรับผู้ลงทุน

เพื่อให้การติดตั้งระบบ HVAC มีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ลงทุนควร:

  • พิจารณา ต้นทุนรวมตลอดอายุการใช้งาน (TCO) แทนที่จะเน้นเฉพาะราคาซื้อเริ่มต้น
  • กำหนด รูปแบบการดำเนินงานอย่างชัดเจน หลีกเลี่ยงคำอธิบายที่คลุมเครือ
  • ตรวจสอบให้มีการ ทดสอบโหลด 100% พร้อมเอกสารการวัดผลแบบครบถ้วน
  • เลือกพันธมิตรที่มีความโปร่งใส ให้เอกสารทางเทคนิคชัดเจน และมีความพร้อมในการสนับสนุนระยะยาว
  • ปฏิบัติตามข้อกำหนดของรัฐ เช่น QCVN 06:2022 และนโยบายการประหยัดพลังงาน

ความผิดพลาดในการออกแบบและติดตั้งระบบ HVAC เช่น การขาดความเชื่อมโยง, เลือกโมเดลผิด, ไม่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อม, การติดตั้งไม่มีคุณภาพ หรือขาดแผน O&M อาจก่อให้เกิดความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและการดำเนินงาน

ดังนั้น การตรวจสอบหน้างานอย่างละเอียด, สัญญาที่ชัดเจน และเอกสาร O&M ที่ครบถ้วน คือแนวทางสำคัญในการลดความเสี่ยง รักษาประสิทธิภาพการผลิต และเพิ่มมูลค่าการลงทุนในระยะยาว

ดูเพิ่มเติม: แนวโน้มของเทคโนโลยี HVAC ในเวียดนามปี 2025

ดูเพิ่มเติม: การเปรียบเทียบ ระบบ HVAC อุตสาหกรรมและพาณิชย์: ขนาด, ฟังก์ชัน และความต้องการในการบำรุงรักษา

 

Chia sẻ