QUALITY GENERAL CONTRACTOR
RELIABLE PLATFORM FOR YOUR BUSINESS
QUALITY GENERAL CONTRACTOR
RELIABLE PLATFORM FOR YOUR BUSINESS

ความแตกต่างระหว่างโรงงานโครงสร้างเหล็กกับโรงงานคอนกรีตเสริมเหล็ก

ารเลือกโซลูชันโครงสร้างที่เหมาะสมมีบทบาทสำคัญต่อค่าใช้จ่ายในการลงทุน ระยะเวลาก่อสร้าง และประสิทธิภาพการดำเนินงานของโรงงานในอนาคต

เปรียบเทียบโรงงานโครงสร้างเหล็กกับโรงงานคอนกรีต

โครงสร้างโรงงาน ที่พบมากที่สุดในปัจจุบันมีอยู่สองประเภทหลัก ได้แก่ โครงสร้างเหล็กและโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก

เกณฑ์เปรียบเทียบโรงงานโครงสร้างเหล็กโรงงานคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.)
วัสดุวัสดุหลักคือเหล็ก เช่น เสา คาน แป โครงหลังคาเหล็ก พร้อมชิ้นส่วนเชื่อมต่อ เช่น น็อตและรอยเชื่อมใช้วัสดุก่อสร้างทั่วไป เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็กเสริม มวลรวม (ทราย กรวด) และน้ำ
ระยะเวลาก่อสร้างก่อสร้างได้รวดเร็ว เนื่องจากชิ้นส่วนเหล็กผลิตล่วงหน้าและนำมาประกอบหน้างานใช้เวลานานกว่า เพราะมีหลายขั้นตอน เช่น การติดตั้งเหล็กเสริม แบบหล่อ เทคอนกรีต และบ่มคอนกรีต
เทคนิคการก่อสร้างเทคนิคก่อสร้างซับซ้อน ต้องใช้แรงงานฝีมือ เพื่อให้รอยเชื่อมและจุดเชื่อมต่อมีความแม่นยำวิธีการก่อสร้างคสล. เป็นที่แพร่หลาย สามารถหาแรงงานท้องถิ่นได้ง่าย
ลักษณะโครงสร้างและความสามารถในการรับน้ำหนัก– ชิ้นส่วนมีหน้าตัดเล็ก น้ำหนักเบากว่าคอนกรีตราว 60% ทำให้โครงสร้างฐานรากง่ายขึ้น

– เหล็กมีอัตราส่วนความแข็งแรงต่อน้ำหนักสูง เหมาะกับอาคารที่ต้องการรับน้ำหนักมากหรือมีช่วงยาว แต่พื้นอาคารจะสั่นและมีความเสถียรน้อยกว่าพื้นคอนกรีต

– วัสดุมีน้ำหนักมาก สูงถึง 2,700 กก./ลบ.ม. โครงสร้างเทอะทะ จึงต้องมีฐานรากที่แข็งแรง

– พื้นคอนกรีตมีความมั่นคงสูง ลดแรงสั่นสะเทือนได้ดี แต่ไม่สามารถคร่อมช่วงกว้างได้ ต้องใช้เสาจำนวนมาก ทำให้พื้นที่ใช้งานจำกัด

ต้นทุนการก่อสร้าง– ต้นทุนฐานรากต่ำกว่าเนื่องจากน้ำหนักเบา

– แต่มีต้นทุนบำรุงรักษาสูง เช่น สีป้องกันสนิม สีทนไฟ ฯลฯ

– ฐานรากซับซ้อนและมีต้นทุนสูง เนื่องจากต้องรับน้ำหนักมาก

– ต้นทุนบำรุงรักษาต่ำ

ความสามารถในการกันไฟ กันพายุ– กันไฟได้น้อย ต้องเคลือบสีหรือห่อหุ้มด้วยวัสดุกันไฟ

– โครงสร้างเบา จึงอาจได้รับผลกระทบจากลมแรงหรือพายุ ต้องออกแบบระบบยึดเหนี่ยวให้แข็งแรง

– กันไฟได้ดีตามธรรมชาติ ตรงตามข้อกำหนดด้านป้องกันอัคคีภัย

– คสล. มีเสถียรภาพสูง ต้านแรงสั่นสะเทือนและพลิกคว่ำได้ดี

ความสวยงามและรายละเอียดงานตกแต่งผลิตจากโรงงานตามแบบมาตรฐาน จึงจำกัดในการตกแต่งรายละเอียดสถาปัตยกรรมและความสวยงามมีความยืดหยุ่นสูง สามารถออกแบบแบบหล่อและเทคอนกรีตหน้างานได้
การปรับปรุงและขยายโรงงานเป็นโครงสร้างประกอบ จึงสามารถปรับปรุงหรือขยายได้ง่ายขั้นตอนการปรับปรุงซับซ้อน มักต้องเจาะหรือทุบคอนกรีตเดิม
อายุการใช้งานโครงสร้างเหล็กเสื่อมสภาพง่ายในสภาพแวดล้อมชื้น มีสารเคมี หรือไอเกลือโครงสร้างแข็งแรง ทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน
ความสามารถในการรีไซเคิล– ถอดประกอบและเคลื่อนย้ายได้ง่าย หากต้องย้ายโรงงาน

– เมื่อหมดอายุการใช้งาน โครงเหล็กมีมูลค่าขายซากสูง และสามารถรีไซเคิลได้

– รีไซเคิลได้ยากหรือไม่ได้เลย

– วัสดุที่รื้อถอนกลายเป็นขยะก่อสร้าง

การเลือกโซลูชันที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุน

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างโรงงานโครงสร้างเหล็กกับโรงงานคอนกรีต จะเห็นได้ว่า โครงสร้างโรงงาน แต่ละประเภทมีความเหมาะสมกับข้อกำหนดและลักษณะของโครงการที่แตกต่างกันไป
โรงงานโครงสร้างเหล็กเหมาะสำหรับโครงการที่ต้องการก่อสร้างรวดเร็ว มีกำหนดเวลาเร่งด่วน หรือโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องการพื้นที่โล่ง เช่น คลังสินค้า โลจิสติกส์ การผลิตแบบประกอบอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ ฯลฯ

โรงงานโครงสร้างเหล็กในโครงการอุตสาหกรรมพลาสติกที่ Hải Dương ซึ่งดำเนินการโดย DELCO ในฐานะผู้รับเหมาแบบ Design – Build

ในขณะที่โรงงานคอนกรีตเสริมเหล็กเหมาะกับอุตสาหกรรมที่ต้องการความเสถียรสูง ลดแรงสั่นสะเทือน เช่น วิศวกรรมความแม่นยำ การผลิตเครื่องจักร การพิมพ์ ฯลฯ หรือในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง มีสารเคมีหรือความเสี่ยงจากไฟไหม้

การก่อสร้างโรงงานที่รวมทั้งโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กและโครงสร้างเหล็ก ในโครงการโรงงานอัจฉริยะ Power Plus Technology โดย DELCO เป็นผู้รับเหมาออกแบบ-ก่อสร้าง

นอกจากสองตัวเลือกข้างต้นแล้ว ปัจจุบันนักลงทุนจำนวนมากเลือกใช้โมเดลโรงงานแบบผสมผสานระหว่างโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กและโครงสร้างเหล็ก สำหรับโรงงานที่มี 2 ชั้นขึ้นไป โดยใช้เสา ฐานราก คาน และพื้นชั้นบนเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อให้สามารถรับน้ำหนักได้ดี ทนไฟ และมีความแข็งแรงทนทาน ในขณะที่โครงสร้างภายนอกและหลังคาเลือกใช้โครงเหล็กและแผ่นเมทัลชีท เพื่อย่นระยะเวลาก่อสร้าง และเพิ่มความโปร่งโล่งในพื้นที่ผลิต

นี่คือโซลูชันแบบผสมผสานที่สามารถดึงจุดเด่นของโครงสร้างทั้งสองแบบมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีคำตอบที่ “ดีที่สุด” สำหรับทุกโครงการ นักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงงบประมาณ แผนการผลิต ความเร่งด่วน และลักษณะเฉพาะของอุตสาหกรรม เพื่อเลือกประเภท โครงสร้างโรงงาน ที่เหมาะสมที่สุด

 

ดูเพิ่มเติม: ข้อดีและข้อเสียของประเภทโรงงาน 2 ชั้นที่นิยมในปัจจุบัน

ดูเพิ่มเติม: การเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของโรงงานโครงสร้างเหล็ก

Chia sẻ