นโยบายภาษีขั้นต่ำทั่วโลกส่งผลกระทบต่อการลงทุน FDI เข้าเวียดนามหรือไม่

นโยบายภาษีขั้นต่ำได้ประยุกต์ใช้อย่างเป็นทางการจากวันที่ 1 มกราคม 2024 ตามนโยบายนี้บริษัท FDI ที่มีรายได้รวมจาก 750 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไปภายใน 2 ปีจะต้องเสียภาษีขั้นต่ำ 15% ซึ่งนโยบายนี้จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การดึงดูด FDI ในเวียดนาม – ประเทศที่มีนโยบายมากมายเพื่อส่งเสริมในด้านภาษีให้กับผู้ลงทุนต่างชาติหรือไม่

นโยบายภาษีขั้นต่ำทั่วโลก

ภาษีขั้นต่ำทั่วโลกได้ริเริ่มจากองค์กรเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ OECD โดยกำหนดบริษัทที่มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จะต้องเสียภาษีขั้นต่ำ 15% และประยุกต์ใช้กับบริษัทนานาชาติที่มีรายได้จาก 750 ล้าน EURO (หรือ 800 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขึ้นไปใน 2 ปีของ 4 ปีติดต่อกันล่าสุด ถ้าบริษัทมีอัตราภาษีต่ำกว่า 15% ในประเทศที่ลงทุนบริษัทจะต้องจ่ายส่วนที่เหลือให้กับประเทศที่มีสำนักงานใหญ่ให้เป็นไปตามอัตรา 15% คาดว่านโยบายนี้จะเริ่มประยุกต์ใช้ตั้งแต่วันที่ 01 มกราคม 2024 ปัจจุบัน นโยบายภาษีขั้นต่ำทั่วโลกได้รับการยอมรับจากมากกว่า 140 ประเทศ ในนั้นมีเวียดนาม ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนยังกังวลว่านโยบายนี้จะส่งผลเสียต่อการดึงดูด FDI ในเวียดนาม

ตามข้อมูลจากกรมสรรพากร เวียดนามมีประมาณ 335 โครงการในธุรกิจการแปรรูป การผลิต เขตเศรษฐกิจและเขตเทคโนโลยีขั้นสูงที่น่าจะถูกรับผลกระทบจากนโยบายภาษีขั้นต่ำทั่วโลก เช่น: Samsung, Intel, Sharp, Bosch…จำนวนเงินลงทุนที่จดทะเบียนทั้งหมดของโครงการประเภทนี้คิดเป็นเกือบ 30% ในจำนวนเงินลงทุน FDI ทั้งหมดในเวียดนาม (ประมาณ 131,3 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ผู้เชี่ยวชาญให้ว่า เวียดนามควรมีมาตรการอย่างเร็วเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้เพื่อมีจุดแข็งในการแข่งขันการดึงดุด FDI และไม่กระทบต่อแผนการลงทุนของโครงการต่างๆ

Chính sách thuế tối thiểu toàn cầu có ảnh hưởng đến dòng vốn FDI vào Việt Nam

อัตราภาษีขั้นต่ำทั่วโลกมีการส่งผลกระทบต่อการดึงดูดนักลงทุน FDI

โอกาสสำหรับเวียดนามในการพัฒนาจุดแข็งอื่นๆ ในการแข่งขัน

ตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ในแง่ร้าย ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่านโยบายภาษีขั้นต่ำทั่วโลกจะไม่ส่งผลกระทบมากเกินไปต่อการลงทุน FDI ในเวียดนาม และก็ถือว่าเป็นโอกาสเพื่อเวียดนามปรับปรุงปัจจัยเรื่องขั้นตอนบริหาร โครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อดึงดูดผู้ลงทุนได้ดีกว่า

จากปี 1991 ถึงปัจจุบันอัตราการจ่ายภาษีไม่ส่งผลกระทบมากเกินไปต่อการลงทุน FDI เข้าเวียดนาม ในช่วงปี 2004 อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัท FDI เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 25% – 28% แต่การลงทุน FDI ยังคงเพิ่มขึ้นมากมาย นอกจากนั้น ภาษีเงินได้นิติบุคคลมีการลดลงในช่วงปี 2009 แต่การลงทุน FDI มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปด้านข้าง

การเปลี่ยนแปลงภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัท FDI ในเวียดนามนับถึงปี 2023

(ที่มาของข้อมูล: saigontimes และสำนักงานสถิติแห่งชาติ 2023)

จากการสำรวจของธนาคารแห่งโลกและผู้เชี่ยวชาญ VinaCapital นอกจากภาษี ปัจจัยอื่นๆ เช่น ความมั่นคงทางการเมือง สภาพแวดล้อมการทำธุรกิจและโครงสร้างพื้นฐานจะมีบทบาทที่สำคัญกว่า โดยทั่วไป เวียดนามเป็นประเทศที่มีสถานกาณ์ความปลอดภัยดี มีความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจมหภาคและสามารถควบคุมปัจจัยเงินเฟ้อได้ดี นอกจากนั้น เวียดนามมีตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวยต่อการค้าขายกับโลก ใกล้กับห่วงโซ่อุปทานเอเชียและสิ่งนี้จะสร้างเงื่อนไขที่สะดวกต่อการผลิตผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูง เวียดนามยังมีนโยบาเปิดกว้างสำหรับบริษัท FDI ในประเทศอยู่เสมอ

จากข้อมูลการสำรวจของ JETRO และองค์กรอื่นๆ เวียดนามเป็นตลาดที่มีประชากร100 ล้านคน มีแหล่งแรงงานอายุน้อยมากมาย แรงงานราคาถูกและมีความสามารถ นอกจากนั้น เงินเดือนในโรงงานของเวียดนามเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของประเทศจีนในขณะที่ประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานเวียดนามและจีนใกล้เคียงกัน

แรงงานเวียดนามมากมาย เงินเดือนเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของประเทศจีน

นอกจากนั้น เวียดนามยังได้รับประโยชน์จากปรากฏการณ์ “friendshoring” ในนั้นบริษัทนานาชาติมีแนวโน้มลงทุนเข้าประเทศที่มีความเสี่ยงน้อยในการจ่ายภาษีสูงสำหรับผลิตภัณฑ์ส่งออกไปสหรัฐอเมริกา หลังจากที่นาย Antony Blinken และคณะผู้แทนสหรัฐอเมริกามาเยื่อนเวียดนามและการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดี Joe Biden และเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ Nguyen Phu Trong เวียดนามกลายเป็นจุดที่น่าดึงดูดสำหรับผู้ลงทุน “friendshoring”

การประยุกต์ใช้นโยบายภาษีขั้นต่ำทั่วโลกก็ถือว่าเป็นโอกาสให้เวียดนามปรับปรุงปัจจัยเรื่องขั้นตอนบริหาร โครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูลจากรายงานของ EuroCham ในไตรมาส 4 ของปี 2022 แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่บริษัท FDI จากยุโรปหวังว่าเวียดนามจะปรับปรุงขั้นตอนการบริหาร (70%) และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (53%) เพื่อเพิ่มการดึงดูด FDI ในความคิดเห็นเช่นเดียวกันหนังสือพิมพ์ Saigontimes ก็ให้ว่าเวียดนามจำเป็นต้องปฏิรูปสภาพแวดล้อมการลงทุนอย่างเด็ดขาดเพื่อรักษาบริษัทต่างชาติไว้ นั้นก็คือต้องปรับลดขั้นตอนบริหาร พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เน้นในการพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน เพิ่มคุณภาพทรัพยกรมนุษย์..

สภาพแวดล้อมการลงทุนและปัจจัยต่างๆ ที่ต้องปรับปรุงเพื่อดึงดูด FDI
(ที่มาของข้อมูล: Saigontimes และ EuroCharm2022)

รวบรวมข้อมูลจาก: Saigontimes, นิยสารการเงินและตลาดการเงิน สำนัหงานสถิติแห่งชาติ VnEconomy VTV)

บทความนี้ได้จัดเขียนโดยทีมสร้างเนื้อหาของ DELCO® Construction ลิขสิทธิ์ของบทความบนเว็บไซต์ delco-construction.com เป็นของ DELCO® Construction โปรดอย่าคัดลอกหรือแก้ไขภาพหรือเนื้อหาใดๆโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจาก DELCO®—

แบ่งปัน