นักลงทุนต่างชาติเมื่อขยายตลาดไปยังเวียดนาม มักจะสับสนในการจัดตั้งบริษัท เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับกระบวนการทางกฎหมายในเวียดนาม
ทำไมถึงเลือกตลาดเวียดนาม
แม้ว่าเวียดนามจะมีระบบกฎหมายที่ซับซ้อน แต่ก็ยังดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมาและจัดตั้งบริษัทได้ เนื่องจาก:
– 60% ของประชากรอยู่ในวัยทำงาน มีฝีมือ แต่แรงงานราคาถูก
– เวียดนามตั้งอยู่ใจกลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนในการเจาะและพิชิตตลาดเอเชีย
ภาพ: DELCO ร่วมสนทนากับนักลงทุนชาวญี่ปุ่นในเรื่องการลงทุนที่เวียดนามในงานที่ชิซูโอกะ – ญี่ปุ่น
การจัดตั้งบริษัท 3 ประเภทสำหรับนักลงทุนต่างชาติในเวียดนาม
การเลือกประเภทบริษัทเหมาะสมเป็นปัญหาที่นักลงทุนหลายคนสงสัย
1.บริษัทจำกัดหนึ่งสมาชิก (เมื่อมีผู้ลงทุนเพียง 1 คน)
บริษัทประเภทนี้มีต้นทุนการก่อตั้งน้อย ด้วยขนาดเล็กและโครงสร้างง่ายต่อการบริหารจัดการ บริษัทจำกัดหนึ่งสมาชิกจะมีอนาคตในการพัฒนาและเหมาะสมเพื่อลงในเกือบทุกๆประเภทของธุรกิจ (ยกเว้นธุรกิจที่มีความจำกัดสำหรับชาวต่างชาติ เช่น การนำเข้าและส่งออก โลจิสติกส์ …)
2. บริษัทจำกัดสองสมาชิก (เมื่อมีผู้ลงทุน 2 คน หรือ 1 บุคคล และ 1 องค์กร)
นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่เลือกประเภทนี้เพื่อร่วมทุนกับบริษัทในประเทศ ความรู้ทางด้านการตลาดและวัฒนธรรมการทำธุรกิจของคู่ค้าเป็นข้อได้เปรียบและเป็นพื้นฐานเพื่อนักลงทุนต่างชาติมาดำเนินโครงการในเวียดนาม
3. บริษัทร่วมทุน (ที่มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป)
นักลงทุนขนาดเล็กและขนาดปานกลางมักไม่เลือกรูปแบบบริษัทในรูปแบบนี้เนื่องจากข้อเสีย:
– ตามกฏหมายการลงทุนเวียดนามผู้ลงทุนต่างชาติถูกจำกัดอัตราการถือหุ้น
– ผู้ลงทุนไม่ยืดหยุ่นในการตัดสินใจลงทุน
ขั้นตอนการจัดตั้งบริษัทในเวียดนาม
การดำเนินการตามขั้นตอนการขอใบรับรองการลงทุน: รายงานเอกสารออนไลน์, ส่งเอกสารโดยตรง | 15 วัน |
จัดการเอกสารและออกใบรับรองการลงทุน | 15 วัน |
สลักตราประทับและประกาศการใช้ตราประทับบนพอร์ทัลทะเบียนธุรกิจแห่งชาติ | 5-8 วัน |
เปิดบัญชีธนาคาร | 1 วัน |
ขั้นตอนการต่อตั้งบริษัทค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้นเพื่อดำเนินทำเอกสารได้รวดเร็วและถูกต้องส่วนใหญ่บริษัทต่างประเทศเมื่อเข้ามาลงทุนที่เวียดนามมักจะเลือกการใช้บริการปรึกษาในด้านนี้
เงินเดือนพื้นฐานในเวียดนาม ประเด็นที่นักลงทุนต้องรู้