ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป การปรับค่าจ้างขั้นต่ำตามภูมิภาคจะส่งผลต่อฐานการคำนวณเงินสมทบประกันสังคมภาคบังคับ ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรและแผนการเงินของธุรกิจ FDI ในเวียดนาม
การเปลี่ยนแปลงฐานการจ่ายเงินสมทบประกันสังคม
ตามพระราชกฤษฎีกาเลขที่ 293/2025/NĐ-CP ตั้งแต่วันที่ 01/01/2026 เป็นต้นไป ค่าจ้างขั้นต่ำตามภูมิภาค – ซึ่งเป็นฐานที่ธุรกิจใช้ในการคำนวณเงินสมทบประกันสังคมภาคบังคับ – ได้รับการปรับใหม่ดังนี้:
- ภูมิภาค I: 5,310,000 ด่ง/เดือน
- ภูมิภาค II: 4,730,000 ด่ง/เดือน
- ภูมิภาค III: 4,140,000 ด่ง/เดือน
- ภูมิภาค IV: 3,700,000 ด่ง/เดือน

สำหรับธุรกิจ FDI ส่วนใหญ่ ค่าจ้างจริงที่จ่ายให้พนักงานมักสูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำตามภูมิภาค การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในปี 2026 นี้อาจไม่ส่งผลต่อกองทุนเงินเดือนโดยรวมอย่างมากนัก แต่อาจทำให้ต้นทุนด้านประกันสังคมของบริษัทเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
อัตราเงินสมทบประกันสังคมขั้นต่ำ ตั้งแต่วันที่ 1/1/2026
ตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม อัตราเงินสมทบรวมที่นายจ้างต้องจ่ายให้พนักงานแต่ละรายปัจจุบันอยู่ที่ 21.5% ซึ่งครอบคลุมกองทุนบำเหน็จบำนาญและเสียชีวิต, ประกันสุขภาพ, ประกันการว่างงาน ฯลฯ ดังนั้น อัตราเงินสมทบประกันสังคมขั้นต่ำที่ธุรกิจต้องจ่าย (คำนวณจากค่าจ้างขั้นต่ำใหม่) มีรายละเอียดดังนี้:
| ภูมิภาค | ฐานเงินเดือนขั้นต่ำสำหรับการจ่ายประกันสังคม | ยอดเงินที่บริษัทต้องจ่ายขั้นต่ำ (21.5%) |
| I | 5,310,000 | 1,141,650 |
| II | 4,730,000 | 1,016,950 |
| III | 4,140,000 | 890,100 |
| IV | 3,700,000 | 795,500 |
ในทางปฏิบัติ บริษัทต่างๆ อาจใช้โครงสร้างบัญชีเงินเดือนที่หลากหลาย โดยเฉพาะในการแยกเงินเดือนพื้นฐาน ค่าตอบแทนพิเศษ และรายการเงินเพิ่มเติมอื่นๆ ดังนั้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงค่าจ้างขั้นต่ำตามภูมิภาค ธุรกิจควรทบทวนโครงสร้างนี้อีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าเงินเดือนที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณประกันสังคมไม่น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด
ที่มา: หนังสือพิมพ์ Tuổi trẻ
ดูเพิ่มเติม: เงินเดือนพื้นฐานปี 2026: การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำส่งผลต่อแรงงานในตลาดแรงงาน
ดูเพิ่มเติม: การเสนอขอปรับเงินเดือนพื้นฐานของเวียดนามมีผลกระทบอย่างไรต่อผู้ลงทุนต่างชาติ






