จนถึงวันที่ 31/10/2025 ยอดเงิน FDI ที่จดทะเบียนเข้ามาในเวียดนามมีมูลค่า 31.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.6% เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน
รายงานโครงสร้างเงินลงทุน FDI ในเวียดนามช่วง 10 เดือนแรกของปี 2025
ตามรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ จนถึงวันที่ 31/10/2025 เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่จดทะเบียนในเวียดนาม (รวมโครงการใหม่ การปรับเพิ่มทุน และการซื้อหุ้น) อยู่ที่ 31.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 ที่น่าสังเกตคือ FDI ที่เบิกจ่ายจริงอยู่ที่ประมาณ 21.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.8% และเป็นระดับสูงที่สุดของช่วง 10 เดือนในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปยังคงเป็นจุดเด่น โดยมีเงินเบิกจ่ายประมาณ 17.68 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นกว่า 83% ของ FDI ทั้งหมดในช่วง 10 เดือน
สำหรับโครงการใหม่ ทั้งประเทศมี 3,321 โครงการได้รับอนุญาตในปี 2025 มูลค่าเงินทุนรวม 14.07 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21.1% ในจำนวนโครงการ ในนั้น อุตสาหกรรมการผลิต – แปรรูปมีเงินลงทุน 7.97 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 56.7% ของเงินทุนโครงการใหม่ทั้งหมด แม้จำนวนโครงการจะเพิ่มขึ้น แต่ขนาดเงินลงทุนเฉลี่ยลดลงประมาณ 7.6% สะท้อนแนวโน้มที่นักลงทุนเลือกขนาดโครงการอย่างระมัดระวังและให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการดำเนินงาน
Bac Ninh ยังคงดึงดูดเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ในจำนวน 87 ประเทศและเขตดินแดนที่มีโครงการ FDI ใหม่ในเวียดนาม Singapore เป็นผู้นำด้วยเงินลงทุนใหม่ 3.76 พันล้านดอลลาร์ (26.7%) ตามด้วย China ที่ 3.21 พันล้านดอลลาร์ (22.8%) ทั้งสองประเทศยังคงเป็นนักลงทุนหลักในด้านอุตสาหกรรมการผลิตและเทคโนโลยีขั้นสูง
ในระดับท้องถิ่น Bac Ninh นำเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ มีเงินทุนจดทะเบียนโครงการใหม่มากกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์ รองลงมาคือ Ho Chi Minh City (กว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์) ผลลัพธ์นี้สะท้อนความน่าสนใจของ ศูนย์กลางอุตสาหกรรม ที่มีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วน และห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแรง เหมาะกับโครงการขยายและการลงทุนใหม่
การเติบโตอย่างต่อเนื่องของทั้งเงินลงทุนที่จดทะเบียนและเงินที่เบิกจ่ายจริงในปี 2025 แสดงให้เห็นว่าเวียดนามยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับเงินทุน FDI ตามแนวโน้มดังกล่าว องค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโต GDP ของเวียดนาม โดย Standard Chartered ปรับคาดการณ์จาก 6% เป็นประมาณ 7.5% ขณะที่ HSBC ปรับจาก 6.6% เป็น 7.9% และ UOB ปรับจาก 6.9% เป็น 7.5% การประเมินในเชิงบวกเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อสภาพแวดล้อมการลงทุนที่มีความมั่นคงและศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุน FDI ในการศึกษาตลาดให้ลึกซึ้ง เลือกทำเลที่เหมาะสม และวางแผนโครงการลงทุนระยะยาวในเวียดนาม
แหล่งข้อมูล: Bao Chinh Phu, Vneconomy
ดูเพิ่มเติม: 5 จังหวัดที่เหมาะที่สุดสำหรับการสร้างโรงงานในเวียดนามหลังวันที่ 1/7/2025
ดูเพิ่มเติม: ประเภทภาษีในเวียดนามและสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับธุรกิจ FDI
