ระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มีผลโดยตรงต่อการออกแบบและการเดินระบบ MEP ของโรงงาน หากไม่มีการคำนวณและวางแผนอย่างเป็นระบบ ธุรกิจอาจเผชิญความเสี่ยงด้านเทคนิคและความปลอดภัยได้
จัดวางระบบไฟฟ้าอย่างเหมาะสม เพื่อการเชื่อมต่อโครงข่ายที่เสถียร
ระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของโรงงานประกอบด้วยอุปกรณ์ทางเทคนิคหลายส่วน เช่น อินเวอร์เตอร์ ตู้ไฟฟ้า ระบบสายเคเบิล ฯลฯ ซึ่งต้องมีการจัดวางให้เหมาะสม ไม่กระทบต่อพื้นที่การผลิตและการทำงานของเครื่องจักร
ที่สำคัญ กำลังการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ซึ่งมักไม่เสถียร หมอกเมฆหรือฝนตกหนักจะทำให้กำลังผลิตลดลง ดังนั้น ไฟฟ้าจากโครงข่ายยังคงต้องรองรับกำลังการผลิตทั้งหมดของโรงงาน เพื่อให้การผลิตดำเนินต่อเนื่องได้ ในหลายกรณี ธุรกิจควรพิจารณาระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ เพื่อใช้ไฟฟ้าอย่างคุ้มค่าในช่วงพีคหรือเมื่อไฟฟ้าโครงข่ายขัดข้อง
ประสานงานกับระบบวิศวกรรมอื่น ๆ
เมื่อบูรณาการพลังงานแสงอาทิตย์เข้ากับการออกแบบโรงงาน ระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ต้องถูกออกแบบให้สอดคล้องและทำงานร่วมกับระบบวิศวกรรมอื่น ๆ เพื่อให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
- ระบบป้องกันอัคคีภัย: ต้องมีมาตรการป้องกันไฟลุกลามจากเหตุขัดข้องทางไฟฟ้า และต้องรักษาทางหนีไฟให้ปลอดภัย
- ระบบกราวด์และป้องกันฟ้าผ่า: แผงโซลาร์เซลล์และโครงสร้างโลหะเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า ดังนั้น ระบบป้องกันฟ้าผ่าและกราวด์ต้องได้รับการออกแบบและปรับปรุงให้เหมาะสมเพื่อปกป้องโรงงานทั้งหมด
ความปลอดภัยในการเดินระบบและบำรุงรักษา
ระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของโรงงานทำงานต่อเนื่องกลางแจ้ง จึงมีความเสี่ยงต่อไฟฟ้าลัดวงจร โหลดเกิน หรือการเกิดเพลิงไหม้ ดังนั้น ในการออกแบบระบบ MEP ต้องรวมอุปกรณ์และมาตรการความปลอดภัย เช่น อุปกรณ์ตัดไฟฉุกเฉิน (Rapid Shutdown) เซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ และขั้นตอนการรับมือเหตุฉุกเฉิน
นอกจากนี้ การเลือกใช้แผงโซลาร์เซลล์และอินเวอร์เตอร์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน มีแหล่งที่มาชัดเจน รวมถึงการบำรุงรักษาเชิงป้องกันอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพในระยะยาว โดยทั่วไป แผงโซลาร์เซลล์คุณภาพสูงมีอายุการใช้งานกว่า 25 ปี ส่วนอินเวอร์เตอร์สามารถใช้งานได้อย่างมีเสถียรภาพราว 5–10 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดและสภาพการทำงาน
ระบบอินเวอร์เตอร์ที่ DELCO Farm – Bac Ninh ช่วยให้การแปลงพลังงานมีประสิทธิภาพและเสถียร ดึงศักยภาพพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มที่
ขั้นตอนการขออนุญาตและเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้า
นอกจากด้านเทคนิคแล้ว นักลงทุนยังต้องเข้าใจกฎระเบียบทางกฎหมายเกี่ยวกับการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กับโครงข่ายไฟฟ้า:
- กำลังการผลิต < 100 kW และไม่มีการขายไฟฟ้าส่วนเกิน: เพียงแจ้งให้การไฟฟ้าตรวจสอบและยืนยันความปลอดภัยทางเทคนิคก่อนเชื่อมต่อ
- กำลังการผลิต ≥ 100 kW หรือมีการขายไฟฟ้าส่วนเกิน: ขึ้นอยู่กับขนาด ต้องลงทะเบียนและอาจต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้า
- กำลังการผลิต ≥ 1.000 kW หรือมีการขายไฟฟ้าส่วนเกิน: ต้องดำเนินการตามขั้นตอนครบถ้วน ได้แก่ การลงทะเบียน ขอใบอนุญาตไฟฟ้า เอกสารด้านสิ่งแวดล้อม เอกสารก่อสร้าง และทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ EVN
ผู้ลงทุนควรปรึกษาหน่วยงานที่ปรึกษากฎหมายและผู้รับเหมาหลักตั้งแต่ต้น เพื่อให้การปฏิบัติตามกฎหมายถูกต้อง และมั่นใจได้ว่าโครงการสามารถเชื่อมต่อเข้าระบบไฟฟ้าได้ตามแผนงานที่กำหนด
ดูเพิ่มเติม: แนวโน้มพลังงานแสงอาทิตย์ส่งผลต่อสถาปัตยกรรมและโครงสร้างของโรงงานหรือไม่?
ดูเพิ่มเติม: การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่ DELCO Farm: ก้าวสู่การดำเนินงานอย่างยั่งยืนและประหยัดพลังงาน
