ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของเวียดนามจะเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้นในปี 2023 ในขณะเดียวกันหลายๆ องค์กรอื่นเชื่อว่าเศรษฐกิจของเวียดนามกำลังเป็นจุดที่สดใสในภูมิภาคและจะมีการเติมโตอย่างมาก
ความท้าทายหรือโอกาส
สถานการณ์ที่คาดเดายาก
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติทั่วไปประกาศดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (IIP) ในเดือนมกราคม 2023 คาดว่าจะลดลง 14,6% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาและลด 8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา ในนั้น ดัชนีการผลิตของอุตสาหกรรมที่สำคัญบางประเภท เช่น การแปรรูปและการผลิตลด 9,1%; อุตสาหกรรมเหมืองแร่ลด 4,9%; ผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้าลด 3,4%…..
จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าจำนวนการสั่งซื้อส่งออกมีสัญญาญชะลอตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 นับถึงปัจจุบัน การส่งออกและนำเข้าของเวียดนามถูกเผชิญกับความถดถอยอย่างมาก มูลค่าการส่งออกและนำเข้าสินค้าในเดือนมกราคม 2023 อยู่ที่ 46,56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ซึ่งลด 17,3% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาและลด 25% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกับในปีก่อน ในนั้นมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 25,08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลด 21,3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน
การสั่งซื้อส่งออกมีการลดลงอย่างมากตั้งแต่เดือนกันยายน 2022
คาดว่าสถานการณ์การสั่งของที่ลดลงยังคงเป็นอีกหลายเดือนเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองในหลายภูมิภาค ราคาน้ำมันยังไม่นิ่งตัว และอัตราเงินเฟ้อของหลายประเทศยังยืดเยื้ออีกนาน โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและยุโรป – ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของเวียดนาม ในขณะเดียวกัน การตัดลดค่าสนับสนุนเกี่ยวกับโควิด 19 จากรัฐบาลในหลายประเทศก็ทำให้หลายครอบครัวต้องลดค่าใช้จ่ายลง การนำเข้าและบริโภคสินค้าจากตลาดใหญ่ถูกลดลงจะสร้างแรงกดดันอย่างมากให้แก่ผู้ทำการผลิตและส่งออกของเวียดนาม
ธนาคารกลางสหรัฐ (Feb) คาดว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น 5 – 5.25% ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ธนาคารแห่งรัฐเวียดนามก็มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อเงินทุนจากนั้นสร้างความซบเซาในการผลิตและเพิ่มปัญหาเงินเฟ้อในประเทศ
นอกจากนั้น การที่ประเทศจีนยกเลิกการปิดประเทศเพราะโควิดก็อาจจะทำให้เพิ่มแรงกดดันต่อราคาน้ำมันและวัตถุดิบในการผลิตของโลก อุตสาหกรรมหลายอย่างของเวียดนามได้แก่ สิ่งทอ โลหะวิทยา สารเคมีและอิเล็กทรอนิกส์ ถูกขึ้นอยู่กับวัตถุดิบนำเข้าจากจีน; โครงสร้างการผลิตและการนำเข้า การส่งออกสินค้าของจีนคล้ายคลึงกับเวียดนามแต่ระดับเทคโนโลยีสูงกว่าและขนาดใหญ่กว่า ดังนั้นจะสร้างแรงกดดันต่อสินค้าส่งออกหลายๆ ประเภทของเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่คาดการณ์ต่างๆ ให้ว่าเศรษฐกิจเวียดนามในต้นปี 2023 ถูกเผชิญกับความลำบากแต่ช่วงสิ้นปีจะมีนโยบายทีดีขึ้นหลังจากการปัญหาอัตราเงินเฟ้อได้ควบคุม
จุดสดใสเชิงบวก
เศรษฐกิจเวียดนามได้ประเมินว่ามีปัจจัยบางปัจจัยสามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2023 ก่อนอื่นต้องพูดถึงเศรษฐกิจที่มีการปรับตัวสูง: ในปี 2022 ทั้งรับมือกับปัญหาโควิด ทั้งส่งเสริมการผลิต ฟื้นฟูเศรษฐกิจและปรับตัวต่อไปกับการผันผวนของเศรษฐกิจ – สังคมในปี 2023
การเติบโต GDP ในปี 2022 ของอาเซียน – 6
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาธนาคารแห่งรัฐได้จัดทำวิธีการเพื่อรักษาความเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนของเวียดนามด่องต่อดอลลาร์สหรัฐ รักษาความสมดุลมหภาค ส่งเสริมบริษัทต่างๆ ฟื้นฟูและและพัฒนา สภาพแวดล้อมการลงทุนได้ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องก็เป็นเงื่อนไขเพื่อผู้ลงทุนต่างชาติลงทุนเข้าเวียดนามมากขึ้น การลงทุน FDI เพิ่มขึ้นจะช่วยลดแรงกดดันการแข็งค่าของอัตราแลกเปลี่ยนและแรงกดดันปัญหาเงินเฟ้อของเวียดนามด่อง ความมั่นคงทางการเมือง ประกันสังคม ปัญหาเงินเฟ้อได้ควบคุมเป็นปัจจัยช่วยทำให้เศรษฐกิจเวียดนามรักษาการเติบโตที่ดี
สุดท้าย การปรับปรุงนโยบายและโครงสร้างตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่องก็ตอบสนองความต้องการในการให้สินเชื่อระยะกลางและระยะยาวก็เป็นพื้นฐานช่วยองค์กรระดมเงินทุนในตลาดหุ้น ตอบสนองความต้องการด้านเงินทุนระยะกลางและระยะยาวที่ราคาถูกเพื่อฟื้นฟูและเติบโต
เช้าวันที่ 12 มกราคมสถาบันศึกษาเพื่อจัดการเศรษฐกิจกลาง (CIEM) ประกาศอนาคตการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2023 คือ 6,47% หรือ 6,83% อัตราการเติบโตนี้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการคาดการณ์การเติบโตเฉลี่ยของโลกคือ 2,2% ตามรายงาน
ภาพรวมของการประชุมเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2022 และแนวโน้มในปี 2023 ที่จัดโดย CIEM
ในรายงานการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในไตรมาส 4 ปี 2022 และแนวโน้มในปี 2023 ที่หน่วยงาน Global Economics & Markets Research ของธนาคาร UOB (สิงคโปร์) จัดทำและประกาศวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา UOB คาดว่าการเติบโต GDP ของเวียดนามในปี 2023 อยู่ที่ 6,6%
ในรอบเยี่ยมและปฏิบัติงานครั้งแรกในเวียดนามเมื่อเดือนมกราคม 2023 คุณ Antoinette Sayeh รองผู้อำนวยการใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ให้ว่า IMF คาดว่าเวียดนามอาจจะเติบโตประมาณ 5,8% ในปีนี้ ในรายงานแนวโน้มทางเศรษฐกิจโลกที่ประกาศวันที่ 10 มกราคมธนาคารโลก (World Bank) ก็คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโต 6,3% ในปี 2023 นี่คือการคาดการณ์ที่มีแนวโน้มที่ดีเมื่อเทียบกับสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วไปของภูมิภาค
รองผู้อำนวยการใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (MIF)
การคาดการณ์ FDI ในปี 2023 – โอกาสอะไรสำหรับเวียดนาม
ยากต่อการรับเงินลงทุน FDI คุณภาพสูง
ตามคุณ Nguyen Dinh Nam ประธาร IPA เวียดนาม – วิสาหกิจดำเนินงานในด้านส่งเสริมการลงทุนและให้คำปรึกษาการลงทุนให้ว่าส่วนใหญ่ในจำนวนเงินลงทุน 12,45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่จดทะเบียนใหม่ขในปี 2022 (นับถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2022) มาจากการเพิ่มทุน ระดมทุน ขยายการผลิตด้วยขนาดใหญ่ของบริษัท FDI ที่มีอยู่
นอกจากนั้น ประเทศใหญ่หลายประเทศก็มีแนวโน้มกระตู้น ส่งเสริมการผลิตและเงินลงทุน FDI กลับมา เช่น อเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น…อุปสรรคเกี่ยวกับระยะเวลาของวิซ่าธุรกิจไม่เพียงพอเพื่อผู้ลงทุนสำรวจสภาพแวดล้อมการลงทุนในแต่ละท้องถิ่น; ปัญหาการอธิบาย การปฏิบัติข้อกำหนดที่ไม่เหมือนกันระหว่างแต่ละท้องถิ่น…ก็ทำให้การดึงดูด FDI ในเวียดนามเจอความยากลำบาก
นอกจากนั้น ราคาเช่าที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมแพงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุน FDI เข้าเวียดนาม สถิติจาก CBRE ให้เห็นว่าราคาเช่าที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมเฉลี่ยของตลาดระดับ 1 ที่ภาคเหนือราคาเช่าอยู่ที่ 120 ดอลลาร์สหรัฐ/ตารางเมตร/ช่วงสิ้นปี 2022 ซึ่งแพงขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปี 2021 เขตอุตสาหกรรมบางเขตที่จังหวัด Bac Ninh และ Hung Yen มีราคาเช่าแพงขึ้นอย่างมาก ส่วนใหญ่แพงขึ้นประมาณ 6-7%/ปี
จากข้อมูลจากกระทรวงการค้าประเทศจีน (MOC) แสดงให้เห็นว่า FDI ลงทุนในการผลิตใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 60% ในปี 2022 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน FDI เทคโนโลยีขั้นสูงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในจีนและจะทำให้มีช่องว่างในการลงทุน FDI ในด้านใช้แรงงานมาก ค่าใช้จ่ายถูกและใช้เทคโนโลยีน้อยกว่าให้กับประเทศอื่นๆ ในขณะนี้เวียดนามสามารถดึงดูด FDI เพื่อผลิตสินค้าส่งออกตลาดจีน มีส่วนร่วมช่วยลดระดับความแตกต่างทางการค้า โดยเฉพาะเมื่อความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ได้มีผลบังคับใช้ โอกาสนี้ยิ่งชัดเจนมากขึ้น
ทำไม่ผู้ลงทุนควรเลือกสร้างโรงงานในจังหวัด Phu Tho
สัญญาที่ดีในการลงทุน FDI เดือนมกราคม 2023
ตามสำนักงานสถิติทั่วไป เงินลงทุน FDI ที่จดทะเบียนในเวียดนามเมื่อเดือนมกราคม 2023 ลดเกือบ 20% เมื่อเทียบกับปี 2022 อย่างไรก็ตาม มีโครงการที่ลงทะเบียนใหม่จำนวน 153 ด้วยจำนวนเงินลงทุน 1,2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 48,5% ในจำนวนและเพิ่ม 3,1 เท่าในจำนวนเงินลงทุนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวในปีที่ผ่านมา ผลการดึงดูดโครงการ FDI ใหม่ในเดือนมกราคม 2023 ได้ประเมินว่ามีสัญญาญที่ดี เปิดโอกาสให้กับเวียดนามในปี 2023 มีการคาดการณ์จำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่าเวียดนามสามารถดึงดูด 36-38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้
ตามสำนักงานสถิติทั่วไปในเดือนมกราคม 2023 มี 28 ประเทศและดินแดนมีโครงการลงทุนที่ได้รับการอนุมัติใหม่ในเวียดนาม ในนั้นสิงคโปร์เป็นผู้ลงทุนใหญ่ที่สุดด้วยจำนวนเงิน 767,6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 63,7% จำนวนเงินลงทุนที่จดทะเบียนใหม่ จีนอยู่อันดับ 2 ด้วยจำนวนเงิน 198,2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 16,4%
จากข้อมูลของกระทรวงการวางแผนและการลงทุน ผู้ลงทุนต่างชาติได้ลงทุนเข้า 17 ภาคส่วนในทั้งหมด 21 ภาคเศรษฐกิจของประเทศ ในนั้น อุตสาหกรรมการแปรรูปและการผลิตอยู่อันดับแรกด้วยจำนวนเงินลงทุน 718,72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 42,64% ในจำนวนเงินลงทุนที่จดทะเบียนทั้งหมด
อุตสาหกรรมการค้าส่งและค้าปลีก ซ่อมรถยนต์ จักรยานยนต์อยู่อันดับ 2 ด้วยจำนวนเงินลงทุน 676,29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 40% ในจำนวนเงินลงทุนที่จดทะเบียนทั้งหมด รองลงมาคืออุตสาหกรรมขนส่ง คลังสินค้าและการก่อสร้างด้วยจำนวนเงินที่จดทะเบียนตามลำดับ มากกว่า 82,92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 63,7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เหลือเป็นอุตสาหกรรมอื่นๆ
ที่มาของข้อมูล: vneconomy.vn; cafeF; หนังสือพิมพ์
4 มาตรฐานที่บังคับใช้เมื่อก่อสร้างโรงงานในเวียดนาม
_ บทความนี้ได้จัดเขียนโดยทีมสร้างเนื้อหาของ DELCO® Construction ลิขสิทธิ์ของบทความบนเว็บไซต์ delco-construction.com เป็นของ DELCO® Construction โปรดอย่าคัดลอกหรือแก้ไขภาพหรือเนื้อหาใดๆโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจาก DELCO® —
