เวียดนามยังคงเป็นจุดที่น่าสนใจในการดึงดูด FDI ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19

เวียดนามถือเป็นหนึ่งในจุดที่น่าสนใจของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยแซงหน้าหลายๆประเทศที่แข็งแกร่งในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย

คลื่นลูกใหม่ของ FDI กำลังมาที่เวียดนาม

ตามหลักเกณฑ์ EPIC ที่เผยแพร่โดย IHS Company (UK) และมหาวิทยาลัยเทนเนสซี เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 25 จาก 60 ประเทศที่น่าดึงดูดใจที่สุดในโลกในด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยแซงหน้าประเทศที่แข็งแกร่งมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย .

องค์กรระหว่างประเทศประเมินว่าสภาพแวดล้อมการลงทุนทางธุรกิจของเวียดนามมีการพัฒนาที่แข็งแกร่งและน่าชื่นชม นิตยสาร US News & World Report จัดอันดับเวียดนามที่ 8 จาก 20 ประเทศมีเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกที่น่าลงทุนในปี 2562 เพิ่มขึ้น 15 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2561

ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด 19 เวียดนามยังได้รับคำชมมากมายสำหรับการหยุดการระบาดโดยทันที ลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมทั้งจำนวนผู้เสียชีวิตในเวลาอันสั้น ในขณะที่หลายประเทศในภูมิภาคนี้ยังคงอยู่ในความไม่สงบทางการเมือง เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมือง ควบคุมโรคระบาดได้ดี และมีสัญญาณเชิงบวกมากมายของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ FDI จะยังคงไหลเข้าสู่เวียดนามต่อไป แม้จะมีการระบาดใหญ่และความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจล้มเหลว

อ้างอิง: ประสบการณ์ในการจัดตั้งบริษัทสำหรับนักลงทุนต่างชาติในเวียดนาม

พยากรณ์เศรษฐกิจเวียดนามในช่วงปี 2563 – 2564

Asian Development Bank คาดการณ์ว่าเวียดนามจะเป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ประเทศอื่นๆ อีกหลายแห่งจะเห็นการเติบโตติดลบอันเนื่องมาจากโรคระบาด

 

ตามรายงาน “Asia Economics: It’s about Stamina (ได้แปลว่า “เศรษฐกิจของประเทศในเอเชีย: ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความแข็งเกร่งของแต่ละประเทศ “) ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจของ HSBC คาดการณ์ว่าการเติบโต GDP ของเวียดนามในปีนี้จะสูงถึง 2.6% (มีการลดลงนิดหน่อยที่ก่อนหน้านี้คาดการณ์ไว้ที่ 3%)

ในปี 2564 HSBC เชื่อว่าเวียดนามจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวที่นำโดยเทคโนโลยีและการไหลเข้าโดยตรงจากต่างประเทศอย่างยั่งยืน ดังนั้น การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2564 คาดว่าจะสูงถึง 8.1% (ก่อนหน้านี้คาดการณ์ไว้ที่ 8.5%)

นอกจากสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นบวกแล้ว สมัชชาแห่งชาติเวียดนามเพิ่งผ่านกฎหมาย: กฎหมายการลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติม, กฎหมายวิสาหกิจที่แก้ไขเพิ่มเติม, กฎหมายการลงทุนในโหมดหุ้นส่วนเอกชนสาธารณะ (PPP) ด้วยเป้าหมายเพื่อสร้างกรอบกฎหมายที่สะดวก โปร่งใส และแข่งขัน เหมาะสมกับแนวปฏิบัติระดับสากลเพื่อดึงดูดโครงการ FDI ที่มีคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุนในอนาคต

แบ่งปัน