แม้ว่าการบริโภคจะลดลง แต่ราคาเหล็กก่อสร้างยังคงแพงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 ราคาเหล็กก่อสร้างในประเทศแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าการบริโภคลดลงประมาณ 10% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ตามการประมาณการ ในช่วงเดือนธันวาคม 2563 ราคาเหล็กในตลาดอยู่ที่ 14.9 – 15.1 ล้านดอง/ตัน เทียบเท่ากับการแพงขึ้นเกือบ 30% เมื่อเทียบกับต้นปี 2563.

ราคาเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันอุปทานมีน้อย

ปัจจุบันเหล็กก่อสร้างในประเทศมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 14,900 – 15,100 VND / kg ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2563 แล้วแต่ยี่ห้อและประเภทของเหล็ก อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้จำหน่าย “เก็บเหล็ก” สะสมเพื่อรอราคาแพงขึ้นได้ทำให้บริษัทก่อสร้างประสบปัญหามากมาย โดยเฉพาะการสั่งซื้อจำนวนมากจากผู้รับเหมาก่อสร้างโรงงานทั่วไป

ราคาเหล็กแท่งเพิ่มขึ้น 1.8-2 ล้านดอง/ตัน เท่ากับ 13.4 -13.6 ล้านดอง/ตัน ราคาเศษเหล็กเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านด่อง/ตัน โดยคงราคาอยู่ที่ 8.4 – 8.6 ล้านด่อง/ตัน อุปทานเศษเหล็กนำเข้ามีราคาแพงกระโดดจาก 135 เหรียญสหรัฐฯ เป็น 475 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ราคาเหล็กแท่งนำเข้าเพิ่มขึ้น 90-95 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน เมื่อเทียบกับต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 ปัจจุบันผันผวนที่ 586-588 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างออสเตรเลียและจีน ตลอดจนแนวโน้มของการปกป้องการค้าและความเสี่ยงทางการเงินที่เพิ่มขึ้นในบริบทของเศรษฐกิจโลกที่มืดมนอันเนื่องมาจากโควิด-19

การเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมเหล็กตามที่รายงานโดย SSI Research แสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาเหล็กทำสถิติสูงกว่าดัชนี VN

ราคาเหล็กที่สูงขึ้นเป็นข่าวดีสำหรับผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็ก แต่สร้างปัญหาให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างหลายประการ ราคาเหล็กที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและการขาดแคลนอุปทานทำให้กำหนดการโครงการมีความเสี่ยงที่จะล่าช้า ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด ส่งผลให้ประสิทธิภาพทางธุรกิจของผู้รับเหมาก่อสร้างทั่วไปลดลง

เนื่องจากเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างทั่วไปที่มักจะลงนามในสัญญา Lump sum Turnkey กับนักลงทุน DELCO ยังประสบปัญหามากมายเนื่องจากราคาเหล็กก่อสร้างที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม DELCO พยายามนำเสนอโซลูชั่นแบบเบ็ดเสร็จ ควบคุมคุณภาพอย่างละเอียดในกระบวนการก่อสร้าง เพื่อให้แน่ใจว่าการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุน

ที่มาของข้อมูล: Tuoi Tre หนังสือพิมพ์ VTV Online, VNEconomy