ตามข้อมูลสถิติไตรมาสที่สามอาจจะเป็นช่วงเติบโตสูงสุดของปี 2022 เศรษฐกิจฟื้นตัวและอัตราการเติบโตของ GDP สูงสุดในรอบ 12 ปี อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่สี่ของปี 2022 และจากการคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจของปี 2023 คาดว่าจะลำบากและถูกรับความกดดันมากมาย
GDP 9 เดือนแรกของปีมีการเติบโตเกินกว่าที่คาดการณ์
แม้ได้คาดการณ์ล่วงหน้าแต่ข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคมของ 9 เดือนแรกที่สำนักงานสถิติทั่วไปประกาศก็ยังเป็นสิ่งที่น่าเซอร์ไฟรส์สำหรับประชาชน ตามสำนักงานสถิติทั่วไป GDP ในไตรมาสที่สามปี 2022 มีอัตราการเติบโต 13,67% อัตราการเติบโตของ 9 เดือนแรกของปี 2022 คือ 8,83% สูงกว่าสิ่งที่คาดการณ์ทั้งหมด สูงกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับแผนทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลสร้างไว้ตอนต้นปี ตัวเลข 8,83% เป็นการเติบโตสูงสุดของ 9 เดือนในรอบปี 2011-2022
ในนั้น ภาคเกษตรกรรมป่าไม้และการประมงมีอัตราการเติบโต 2,99% คิดที่ 4,04% ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้างมีอัตราการเติบโต 9,44% คิดที่ 41,79% ภาคบริการมีอัตราการเติบโต 10.57% คิดเป็น 54,17% อุตสาหกรรมแปรรูป การผลิตเป็นตัวหลักในการเติบโตของเศรษฐกิจด้วยอัตราการเติบโต 10,69%
เงินลงทุน FDI ดำเนินการในเวียดนามใน 9 เดือนแรกปี 2022 คาดว่าอย่ที่ 15,43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โต 16,3% เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันปีที่แล้ว นี่คือจำนวนเงินลงทุน FDI ที่สูงสุดของ 9 เดือนในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินลงทุนจากต่างประเทศที่จดทะเบียนใหม่ ปรับเพิ่ม ร่วมหุ้นและซื้อหุ้นของผู้ลงทุนต่างประเทศทั้งหมดอยู่แค่ 18,7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลด 15,3% เมื่อเทียบกับปี 2021
เศรษฐกิจเวียดนามในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พัฒนาการที่น่าประทับใจ
หลังจากไตรมาสที่สาม การเติบโตเศรษฐกิจไตรมาสสี่ปี 2022 ถูกรับความกดดันมากมาย
ความไม่แน่นอนของตลาดต่างประเทศ
กิจกรรมทางเศรษฐกิจของเวียดนามอยู่ภายในบริบทโลกทีมีความผันผวนมากมาย: การขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนตั้งแต่ต้นปี 2022 ทำให้ราคาน้ำมันของโลกผันผวนอย่างซับซ้อน การหยุดชะงักของแหล่งอาหารและพลังงานก๊าช….ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็สูงขึ้นเนื่องจากผลกระทบจากการขัดแย้ง ถ้าภาวะเครียดทางการเมืองรุนแรงมากขึ้นต่อเนื่องอาจจะทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงต่อความปลอดภัยด้านพลังงาน ความปลอดภัยด้านแหล่งอาหาร แหล่งสินค้าโภคภัณฑ์….นอกจากนั้นประเทศจีนยังปฏิบัตินโยบาย zero-Covid จึงทำให้แหล่งสินค้าโภคภัณฑ์ถูกหยุดชะงัก การตลาดถูกแบ่งแยก กิจกรรมการค้าขายจึงเจอความลำบากความไม่แน่นอนจากตลาดต่างประเทศจะส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อกิจกรรมการผลิตและส่งออกของเวียดนาม จากข้อมูลสถิติของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า อัตราการส่งออกของทั้งประเทศในเดือนกรกฏาคมปี 2022 ลดลง 1,2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จากรายงานของธนาคาร UOB ความต้องการของผู้บริโภคลดลงในเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งทำให้อัตราการเติบโตของการส่งออกถูกช้าลงค่อนข้างมาก มูลค่าการส่งออกในเดือนกันยายน 2022 อยู่ที่ 29,9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย31,3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 โดยเฉพาะเมือง Ho Chi Minh การส่งออกและแปรรูปไม้และสิ่งทอกำลังเผชิญหน้ากับความลำบากเนื่องจากตลาดหลักคืออเมริกาและยุโรปลดจำนวนการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องเพราะปัญหาอัตราเงินเฟ้อ ตามการคาดการณ์ ภาวะอย่างนี้อาจจะยืดยาวไปถึงปี 2023 ถ้าภาวะอัตราเงินเฟ้อและการเมืองของประเทศเหล่านี้ยังมีการผันผวน
อัตราเงินเฟ้อของประเทศเศรษฐกิจหลักทำให้เกิดการถดถอย
ในครึ่งแรกของปี 2022 แนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นยังคงต่อเนื่องและอยู่จุดสูงสุดในเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ อัตราเงินเฟ้อโดยรวมได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้จากธนาคารกลางและสูงมากในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น ตุรกี อาร์เจนตินา บราซิลและกำลังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในยุโรปกลางและตะวันออก ละตินอเมริกา สหรัฐอเมริกา สหราชอณาจักรที่อัตราเงินเฟ้อประมาณ 7,6% – 10,2%
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน Tran Quoc Phuong ให้ว่าปัญหาอัตราเงินเฟ้อของโลก โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อของประเทศเศรษฐกิจหลักและประเทศที่เป็นคู่ค้าของเวียดนามไม่น่าจะจบในเวลา 1-2 เดือนข้างหน้าอาจจะยืดยาวเพิ่มไปถึงปี 2023 แน่นอน คุณ Phuong ให้ว่า อัตราเงินเฟ้อและนโยบายต่างๆ เพื่อควบคุมเงินเฟ้ออย่างรุนแรงของประเทศเศรษฐกิจหลักทำให้เกิดการถดถถอยเศรษฐกิจ
สินเชื่อยังคงถูกจำกัด
การให้บริหารสินเชื่อยังคงถูกจำกัดเนื่องจากหลายๆ ปัจจัย ความเสี่ยงหนี้เสียของธนาคารเริ่มปรากฏหลังจากช่วงกระชับสินเชื่อรวมกับการที่หนังสือเวียนฉบับ 14/2021 หมดอายุการบังคับใช้ องค์กรต่างๆ ได้ปรับโครงสร้างหนี้ถึงแค่เดือนมิถุนายน 2022 ไตรมาสที่สามปี 2022 พบหนี้เสียและอัตราหนี้เสียของธนาคารทั้งหมดเพิ่มขึ้นอย่างสูง
ธนาคาร UOB เตือนว่าแนวโน้มการเติบโตของปี 2023 น่าเป็นห่วงเมื่อนโยบายการกระชับการเงินที่รุนแรงจากธนาคารกลางคาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักสองแห่งที่มีส่วนแบ่งตลาดส่งออกถึง 41% ของเวียดนาม
คาดการณ์สองแผนการเติบโต GDP ปี 2022
ในงานแถลงข่าวรัฐบาลประจำเดือนกันยายนที่ผ่านมา กระทรวงการวางแผนและการลงทุนคาดการณ์สองแผนการเติบโตของ GDP ไตรมาสที่สี่และทั้งปี 2022 แผนแรกคือในไตรมาสที่สี่จะเจอความเสี่ยงมากมายที่คาดเดายาก การเติบโต GDP ทั้งปี 2022 อยู่ที่ 7,5% แผนที่สองในบริบทมีความเปลี่ยนแปลงมากในปัจจุบัน ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงแบบกระโดดในทางที่เอื้ออำนวยต่อเศรษฐกิจเวียดนามจากภายนอกคาดว่าการเติบโต GDP ของทั้งปี 2022 อยู่ประมาณ 8%
เศรษฐกิจเวียดนาม มีความเปิดกว้างมาก ผลิตโดยขึ้นอยู่กับแหล่งและราคาวัตถุดิบ พลังงานที่นำเข้าค่อนข้างมาก ขนาดเศรษฐกิจค่อนข้างเล็กน้อย กำลังการทนต่อและการแข่งขันยังมีจำกัด ดังนั้นถูกรับผลกระทบมากมายจากภาวะการเมืองของโลกที่ซับซ้อน คาดเดายาก…ซึ่งต้องการมีความรอบคอบและยืดหยุ่นของหน่วยงานบริหารจัดการนโยบาย ธนาคาร Asia Development Bank (ADB) เตือนว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่ยิ่งวันยิ่งมากขึ้น การถดถอยของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการส่งออกของเวียดนาม การขาดแคลนแรงงานคาดว่าจะกระทบต่อความฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของภาคอุตสาหกรรมบริการและผลิตส่งออกที่ต้องใช้จำนวนแรงงานมากมาย การล่าช้าของการเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐและรายจ่ายทางสังคมเมื่อเทียบกับแผน โดยเฉพาะการล่าช้าในการดำเนินการโปรแกรมฟื้นตัวและพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลอาจจะทำให้ลดอัตราการเติบโตในปีนี้และปีหน้า
รัฐมนตรีช่วยว่า Tran Quoc Phuong ขึ้นไปกล่าวในการสนทนา
ในบริบทของเศรษฐกิจปัจจุบันที่กำลังภถูกรับความกดดันและความเสี่ยงมากมายจากภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งอาจจจะยากที่จะคาดการณ์ตัวเลขอย่างถูกต้องเกี่ยวกับผลการเติบโตในช่วงเดือนข้างหน้า และการคาดการณ์ระยะยาวยิ่งยากกว่าอีก ตามคุณ Tran Quoc Phuong รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน แผนการเติบโตในปี 2023 อยู่ประมาณ 6,5%
ข้อมูลรวบรวมจาก: หนังสือพิมพ์การลงทุน หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ Sai Gon หนังสือพิมพ์กองทัพประชาชน
แหล่งที่มาของภาพ: สำนักงานสถิติทั่วไป Vietnambiz
_ บทความนี้ได้จัดเขียนโดยทีมสร้างเนื้อหาของ DELCO® Construction ลิขสิทธิ์ของบทความบนเว็บไซต์ delco-construction.com เป็นของ DELCO® Construction โปรดอย่าคัดลอกหรือแก้ไขภาพหรือเนื้อหาใดๆโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจาก DELCO® —
สร้างโรงงานที่ Binh Duong – จังหวัดชั้นนำในการดึงดูดการลงทุน FDI ที่เวียดนามในหลายปีต่อเนื่อง
ปัจจัยที่ทำให้ผู้ลงทุนเลือกจะสร้างโรงงานใน Hung Yen