นับข้อมูลสะสมถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2023 เวียดนามได้ดึงดูดการทุนจากกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปด้วยจำนวนเงินลงทุนที่จดทะเบียนเกือบ 29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็น 2,515 โครงการที่ได้อนุมัติ จากการสำรวจของ EuroCham มีบริษัทยุโรป 31 แห่งที่มีแผนขยายเพิ่มจำนวนแรงงานและมีจำนวนบริษัทประมาณ 34% มีแผนจะเพิ่มการลงทุนเข้าเวียดนามในปี 2024
สถานการณ์ปัจจุบันของการลงทุน FDI จากยุโรปเข้าเวียดนาม
จากข้อมูลสถิติ สัดส่วนเงินลงทุน FDI ที่จดทะเบียนของสหภาพยุโรปในเวียดนามเพิ่มขึ้นจาก 5% ในจำนวนเงินลงทุนทั้งหมดที่คิดเฉลี่ยในช่วงปี 2016 – 2020 เป็น 8% ในช่วงปี 2022 และเป็น 9,2% ใน 6 เดือนแรกของปี 2023 เวียดนามดึงดูดการลงทุนจากสหภาพยุโรปด้วยจำนวนเงินลงทุนที่จดทะเบียนเกือบ 29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็น 2,525 โครงการ ซึ่งการลงทุนอย่างนี้ได้ดันสหภาพยุโรปเป็นอันดับที่ 6 ในพันธมิตรที่ลงทุนในเวียดนามมากที่สุดในปี 2023
ในปี 2023 ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นผู้นำด้วยจำนวน 427 โครงการและเงินลงทุนมากถึง 14,1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 49% ของจำนวนเงินลงทุนทั้งหมดจากสหภาพยุโรปในเวียดนาม รองลงมาคือประเทศฝรั่งเศสอยู่อันดับที่ 2 ด้วยจำนวนเงินลงทุน 3,8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 13% เยอรมนีมีจำนวน 456 โครงการ ด้วยจำนวนเงินลงทุนทั้งหมด 2,5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 9% และเดนมาร์กมีจำนวน 163 โครงการที่จดทะเบียนด้วยจำนวนเงินลงทุน 1,97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 7%
บริษัทจากสหภาพยุโรปที่ลงทุนเข้าเวียดนามส่วนใหญ่เลือกลงทุนเข้าจังหวัดและเมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนา มีท่าเรือ มีท่าอากาศยาน เช่น Ha Noi, Quang Ninh, Ba Ria – Vung Tau, Ho Chi Minh, Binh Duong, Dong Nai…มีธุรกิจหลักๆ 5 ประเภทที่สหภาพยุโรปลงทุนมากที่สุดคืออุตสาหกรรมแปรรูปและผลิต ซ่อมแซมรถยนต์ รถบิ๊กไบค์ รถจักรยานยนต์ ขายส่งและขายปลีก วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้อมูลการสื่อสาร การศึกษาและการฝึกอบรม
บางบริษัทยุโรปขนาดใหญ่ในเวียดนาม เช่น Lego (เดนมาร์ก) Shell Group (เนเธอร์แลนด์) Total Elf Fina (ฝรั่งเศส – เบลเยียม) Daimler Chrysler (เยอรมนี) Siemens และ Alcatel Comvik (สวีเดน)…
ทำไมบริษัทยุโรปถึงมีการลงทุนเข้าเวียดนามมากขึ้นทุกวัน
เวียดนามได้ประเมินเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน จากข้อมูลของธนาคารโลก คาดกว่า GDP เวียดนามจะเพิ่มขึ้น 6% ในปี 2024 และเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจมีการเติบโตสูงสุดของโลก ซึ่งได้ช่วยสร้างโอกาสให้กับบริษัท FDI โดยเฉพาะบริษัทของยุโรปเมื่อเข้ามาลงทุนในเวียดนาม
นอกจากข้อดีคือมีแหล่งแรงงานมากมาย มีตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เป็นประตูการค้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว เวียดนามยังดึงดูดนักลงทุนจากยุโรปด้วยการสนับสนุนต่างๆ ในข้อตกลง EVFTA ที่ได้ลงนามเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2019 ข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 01 สิงหาคม ช่วยส่งเสริมมากมายต่อการลงทุนจากยุโรปเข้าเวียดนาม
เวียดนามลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA กับประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรป
ข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA ได้สร้างประโยชน์มากมายให้กับบริษัทของทั้งสองฝ่าย เช่น เวียดนามยกเลิกภาษีนำเข้าทันทีหลังจากข้อตกลงมีผลบังคับใช้งานด้วยอัตราภาษี 48,5% คิดเป็น 64,5% มูลค่าของการนำเข้าจากสหภาพยุโรป แผนว่าหลังจาก 10 ปีที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ สหภาพยุโรปจะยกเลิกอัตราภาษีนำเข้าจากเวียดนามประมาณ 99,2% และเวียดนามจะยกเลิกอัตราภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรปประมาณ 99,8% ดังนั้น บริษัทของยุโรปมาลงทุนเข้าเวียดนามจะได้รับภาษีเป็น 0% สำหรับสินค้านำเข้าจากยุโรป ได้รับการยกเว้นภาษีส่งออก 100% เมื่อส่งออกจากเวียดนามไปยังประเทศในสหภาพยุโรป
นอกจากนั้นข้อสนับสนุนจากข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA บริษัทต่างๆ ของยุโรปเมื่อลงทุนเข้าเวียดนามยังได้รับข้อสนับสนุนจากนโยบายที่รัฐบาลประกาศ เช่น ยกเว้นภาษีเพิ่มเติมภายในเวลา 2 หรือ 4 ปี ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลภายในเวลา 4 ถึง 9 ปี ตามกฤษฎีกาฉบับ 218/2013/ND-CP ได้ยกเว้นหรือลดภาษีการส่งออก/นำเข้าจากประเทศในกลุ่ม ASEAN ตามข้อตกลง ATIGA ยกเว้นหรือลดค่าที่ดินตามข้อกำหนดในกฤษฎีกาฉบับ 135/2016/ND-CP
สำหรับบริษัทของประเทศอังกฤษ และไอร์แลนด์ เวียดนามก็มีข้อตกลง UKVFTA เพื่อช่วยบริษัทต่างๆ ได้รับการลดภาษีถึง 99% ของรายการสินค้าที่มีการซื้อขายระหว่างเวียดนามและอังกฤษ โดยเฉพาะ สินค้าที่เป็นเสื้อผ้า เครื่องหนังและรองเท้าได้รับอัตราภาษีเป็น 0% ตามกำหนดของข้อตกลง UKVFTA ช่วยสร้างจุดแข็งทางการค้าให้แก่บริษัท FDI ในเวียดนาม
ความคาดหวังของนักลงทุนกับประเทศเวียดนาม
จากข้อมูลสำรวจของ EuroCham มีจำนวน 59% ของบริษัทที่ได้เข้าร่วมการสำรวจมีความคิดเห็นว่าขั้นตอนการบริหารของรัฐบาลถือเป็นความท้าทายเมื่อเข้ามาทำธุรกิจในเวียดนาม นอกจากนั้น อุปสรรคอีกประเด็นหนึ่งคือความไม่แน่นอนในข้อกำหนด ความยากในการขอใบอนุญาตต่างๆ รวมถึงความเข้มงวดในการขอวีซ่าสำหรับแรงงานชาวต่างชาติก็เป็นปัญหาที่บริษัทต่างชาติสนใจ
เพื่อให้กิจกรรมการลงทุนเข้าเวียดนามได้อย่างสะดวกราบรื่น จำนวน 58% ของบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจให้ความคิดเห็นว่าต้องมีการปรับปรุงลดขั้นตอนการบริหารของรัฐเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด 48% สนับสนุนและเห็นด้วยกับการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมทางกฎหมาย หนึ่งในสามคาดหวังว่าเวียดนามจะปรับปรุงเพิ่มเติมให้กับโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมและ 22% แสดงความคาดหวังว่าจะมีการผ่อนคลายในข้อกำหนดการทำวีซ่าและใบอนุญาตการทำงานสำหรับผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติ
นอกจากนั้น นักลงทุนจากสหภาพยุโรปก็คาดหวังว่าเวียดนามจะส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียนา สร้างนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศและคาดหวังว่าผู้จำหน่ายในเวียดนามจะปฎิบัติตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อกิจกรรมการลงทุนในเวียดนามได้สะดวกและพัฒนามากขึ้น
อ่านเพิ่ม: DELCO ร่วมมือกับนักลงทุน DAINESE เพื่อออกแบบ – ติดตั้งระบบเครื่องกลไฟฟ้าและสร้างโรงงานที่ชาญฉลาด
แนวทางการแก้ไขและข้อสัญญาจากประเทศเวียดนาม
เพื่อส่งเสริมการดึงดูดการลงทุนจากสหภาพยุโรป ประเทศเวียดนามได้เสนอแนวทางการแก้ไขเพื่อลดขั้นตอนการบริหารของรัฐ เช่น ยกเลิกขั้นตอนการบริหารการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมตามกฤษฎีกาฉบับ 35/2022/ND-CP เวียดนามส่งเสริมการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสีเขียว มุ่งไปสู่เศรษฐกิจโลก พัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยข้อสัญญาจะพยายามลดการปลดปล่อยก๊าชสุทธิเป็น 0 ในปี 2050
เวียดนามสัญญาจะยกเลิกภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าหลักๆ เช่น ยกเว้นภาษีนำเข้ารถบิ๊กใบค์หลังจาก 9 ปี สารเคมีหลังจาก 7 ปี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังจาก 10 ปี เครื่องจักร อุปกรณ์หย่างช้าคือ 7 ปี….นับจากวันที่ข้อตกลงการค้ามีผลบังคับใช้ ด้วยข้อสัญญานี้ จะช่วยลดภาระทางภาษีให้กับบริษัทต่างๆ ของยุโรป รวมถึงการบริษัทยุโรปจะได้รับนโยบายสนับสนุนมากขึ้นเมื่อเข้ามาลงทุนในเวียดนาม
คาดการณ์แนวโน้มการลงทุนโดยตรงจากยุโรปเข้าสู่ประเทศเวียดนามในอนาคต
จากการสำรวจของ EuroCham มีจำนวน 62% ของบริษัทยุโรปที่เชื่อมันและเลือกเวียดนามเป็นกลุ่ม 10 ประเทศที่น่าลงทุนที่สุดของโลก ในนั้นมี 17% ของบริษัทยุโรปยกย่องเวียดนามเป็นอันดับแรก จำนวนเงินลงทุน FDI จากยุโรปที่ลงทุนเข้าเวียดนามยิ่งวันยิ่งมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เน้นลงทุนในอุตสาหกรรมอาหาร ผลิตภัณฑ์จากการเกษตร การประมง อาหารเสริม ยา ผลิตเครื่องจักรอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง… จากข้อมูลของ EuroCham มีจำนวน 31% ในบริษัทของยุโรปมีแผนจะขยายเพิ่มแรงงานและ 34% มีแผนจะเพิ่มการลงทุนเข้าเวียดนามในปี 2024
เวียดนามส่งเสริมการพัฒนาและขยายนิคมอุตสาหกรรมสีเขียวและนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เช่น นิคมอุตสาหกรรม Dinh Vu ที่จังหวัด Hai Phong นิคมอุตสาหกรรม Hoa Khanh ที่โฮจิมินห์ นิคมอุตสาหกรรม Amata ที่จังหวัด Can Tho นิคมอุตสาหกรรม Hiep Phuoc ที่จังหวัด Dong Nai และนิคมอุตสาหกรรม Tra Noc ที่จังหวัด Da Nang นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 5 แห่งนี้จะเป็นพื้นฐานในการช่วยเวียดนามขยายรูปแบบของนิคมอุตสาหรรมสีเขียวอีกต่อไปและจะมีการดึงดูดนักลงทุนสนใจถึงเศรษฐกิจสีเขียวมากขึ้น
นอกจากนั้น เวียดนามก็ใส่ใจในการจัดแนวทางเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคม โครงสร้างพื้นฐานของนิคมอุตสาหกรรมเพื่อดึงดูดบริษัทต่างๆ จากยุโรป เช่น การลงทุนสร้างถนนรถยนต์ สร้างทางด่วน และสร้างท่าอากาศยาน….เพื่อสร้างความสะดวกให้แก่กิจกรรมการค้าในประเทศและนอกประเทศ โครงสร้างพื้นฐานในนิคมอุตสาหกรรมก็ได้เน้นปรับปรุงเพื่อรับรองมีระบบโรงงาน ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ และอินเทอร์เน็ต…ที่มีคุณภาพและครบครันเพื่อตอบสนองความต้องการของบริษัทต่างๆ อย่างเต็มที่
ในฐานะเป็นผู้รับเหมาด้านการออกแบบ – ก่อสร้างโครงการ FDI โดยทั่วไปและโครงการลงทุนจากยุโรปโดยเฉพาะหลายโครงการ DELCO จึงมีประสบการณ์มากมายในการให้คำแนะนำและให้โซลูชั่นของโรงงานที่ชาญฉลาด ประหยัดพลังงานและเชื้อเพลิง ช่วยนักลงทุนประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย…โดย DELCO เคยได้รับข้อตอบกลับที่ดีจากลูกค้า
“แม้ว่าทาง Dainese ยังไม่เข้าใจจริงๆ และยังไม่สามารถบอกความต้องการได้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับเครื่องจักรที่ทาง Dainese จะต้องใช้กับโรงงาน แต่ DELCO ก็ยังสามารถเสนอแนวทางได้ชัดเจนและเหมาะสมเพื่อช่วยทาง Dainese เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตนเองคืออะไร DELCO คิดในฐานะเป็นลูกค้าไม่ได้คิดในฐานะเป็นผู้รับเหมา การทำงานร่วมกับทีมงานของ DELCO ค่อนข้างง่าย สมาชิกทุกคนในทีม DELCO จะติดตามงานตลอดนและพร้อมเสมอที่จะประสานงานและหารือกับทางผมในทุกๆ ปัญหาที่เกิดขึ้น ผมมีความชื่นชมมากในความยืดหยุ่นในการทำงานของ DELCO บางครั้งทางผมต้องมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมาย ดังนั้นต้องมีการเปลี่ยนแปลงในแผนการก่อสร้างโรงงาน แต่ DELCO พร้อมเสมอที่จะปรับเปลี่ยนและช่วยทางผมอย่างเต็มที่ ”
คุณ Fabio Bianchin – CEO DAINESE VIETNAM
โครงการโรงงาน DAINESE Vietnam (อีตาลี) สร้างที่นิคมอุตสาหกรรม Yen Binh จัวหวัด Thai Nguyen
อ่านเพิ่ม: รายการนิคมอุตสาหกรรมเวียดนาม – ปี 2023
อ่านเพิ่ม: การพัฒนาของอุตสาหกรรมรถยนต์ของเวียดนาม: นโยบายการดึงดูด FDI และคาดการณ์การเติบโตในอนาคต