กระทรวงแรงงานและสังคมได้เสนอการปรับเงินเดือนขั้นต่ำเพิ่ม 6% การปรับเพิ่มเงินเดือนให้แรงงานคาดว่าจะมีผลกระทบทั้งทางเป็นบวกและเป็นลบต่อผู้ลงทุนต่างชาติในเวียดนาม

การเสนอปรับเงินเดือนขั้นต่ำที่เวียดนามตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024

ความคิดของแรงงานเวียดนามในบริบทเศรษฐกิจใหม่

ในปี 2023 – 2024 เศรษฐกิจเวียดนามยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน เช่น ภาวะเงินเฟ้อ ราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น และคำสั่งซื้อที่ลดลง ส่งผลให้หลายบริษัทต้องลดจำนวนพนักงานหรือปรับลดชั่วโมงการทำงาน

ที่มา: สำนักงานสถิติทั่วไป

นอกจากนี้ แรงงานมีแนวโน้มที่จะไม่ยึดติดกับงานประจำ จากข้อมูลของสำนักงานประกันสังคมเวียดนามในปี 2024 มีแรงงานเกือบ 1.1 ล้านคนถอนตัวจากระบบประกันสังคม ลดลง 1.6% เมื่อเทียบกับปี 2023

ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตยังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมัน อาหาร และที่อยู่อาศัย ทำให้แรงงานต้องเผชิญกับแรงกดดันทางการเงินมากขึ้น แรงงานหลายคนคาดหวังให้มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อชดเชยค่าครองชีพที่สูงขึ้น

การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำไม่เพียงแต่ช่วยรักษารายได้ของแรงงาน แต่ยังเป็นมาตรการสำคัญในการรักษาพนักงานในภาวะตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูงขึ้น

การประชุมเกี่ยวกับการเสนอปรับค่าจ้างขั้นต่ำในปี 2024

ดูเพิ่มเติม: 8 บุคลิกภาพของแรงงานเวียดนามในการทำงาน

การเสนอปรับเงินเดือนขั้นต่ำที่เวียดนามตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024

ตามมาตรา 91 ของกฎหมายแรงงานเวียดนาม เงินเดือนขั้นต่ำคือค่าจ้างต่ำสุดที่จ่ายให้กับแรงงานที่ทำงานขั้นพื้นฐานในสภาพการทำงานปกติ เพื่อรับรองระดับการดำรงชีวิตขั้นต่ำของแรงงานและครอบครัว ซึ่งสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคม เงินเดือนขั้นต่ำถูกกำหนดตามพื้นที่ และสามารถคิดเป็นรายเดือนหรือรายชั่วโมง

เพื่อรับรองระดับการครองชีพของแรงงานในสถานการณ์ปัจจุบัน คณะกรรมการค่าจ้างแห่งชาติและกระทรวงแรงงานและสังคมเวียดนามได้เสนอให้ปรับขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำใน 4 เขตโดยเฉลี่ย 6% (เพิ่มขึ้น 200,000 – 280,000 ด่อง) จากระดับปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดดังนี้:

หน่วย: ด่อง/เดือน

เงินเดือนขั้นต่ำ	เขต I	เขต II	เขต III	เขต IV
ปัจจุบัน	4,680,000	4,160,000	3,640,000	3,250,000
เสนอปรับ	4,960,000	4,410,000	3,860,000	3,450,000

ผลกระทบของการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำต่อแรงงานและนักลงทุนต่างชาติในเวียดนาม

ในเชิงทฤษฎี ข้อเสนอนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนักต่อบริษัท FDI เนื่องจากส่วนใหญ่จ่ายค่าจ้างสูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อดึงดูดแรงงาน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5 – 10 ล้านด่องต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ บริษัท FDI อาจได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก:

แรงงานหลายคนคาดหวังว่าจะได้รับค่าจ้างและสวัสดิการที่เพิ่มขึ้นเมื่อค่าจ้างขั้นต่ำถูกปรับขึ้น หากไม่มีนโยบายที่เหมาะสม อาจส่งผลต่อจิตวิทยาการทำงานและประสิทธิภาพการทำงานของแรงงาน และทำให้การสรรหาและรักษาพนักงานเป็นเรื่องยากขึ้น ต้นทุนในการจ้างงานและค่าใช้จ่ายดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะในโรงงานที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก อาจเพิ่มขึ้น

เพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ บริษัทควรพิจารณาปรับโครงสร้างค่าตอบแทนตามผลการทำงาน และเสนอค่าตอบแทนพิเศษ เช่น ค่าล่วงเวลา ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ฯลฯนอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตผ่านเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติเพื่อพึ่งพาแรงงานต้นทุนต่ำให้น้อยลง รวมถึงการฝึกอบรมพนักงานเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงาน