มีหลายๆ ปัจจัยตั้งแต่ปัจจัยปรนัยถึงอัตนัยที่ส่งผลกระทบต่อการเสนอราคาก่อสร้างโรงงาน เช่น การเปลี่ยนแปลงของข้อกำหนดกฏหมาย การผันผวนของราคาวัตถุดิบในตลาด ….ปัจจัยดังต่อไปนี้จะเป็นสิ่งที่กระทบโดยตรงต่อราคาการก่อสร้างโรงงานที่ผู้ลงทุนควรสนใจ
ขนาดของโรงงาน
ขนาดของโรงงานยิ่งเล็ก ราคาก่อสร้างจะยิ่งสูง เพราะว่าโรงงานขนาดเล็กหรือใหญ่ก็จะมีรายการงานที่เหมือนกันและค่าใช้จ่ายเท่าเทียมกัน เช่น: ระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย โครงสร้างพื้นฐาน บ่อใต้ดิน ถนนภายใน กำแพง….รายการงานพวกนี้ต้องทำโดยเฉพาะ จำนวนแรงงาน ค่าใช้จ่ายวัสดุ วัตถุดิบต้องรับรองคุณภาพของงาน ไม่สามารถอ้างว่าเนื่องจากโรงงานขนาดเล็กเพื่อลดจำนวนแรงงานหรือลดค่าใช้จ่ายลงได้ ดังนั้นโรงงานมีขนาดยิ่งเล็ก ราคาก่อสร้างคิดตามตารางเมตรจะยิ่งสูง และในทางกลับกัน ขนาดโรงงานยิ่งใหญ่ราคาก่อสร้างยิ่งประหยัด
ข้อกำหนดด้านเทคนิค
โรงงานที่ออกแบบยิ่งซับซ้อน ยิ่งมีรายละเอียดเยอะ โครงสร้างต้องรับน้ำหนักมาก ระบบเครื่องจักรใช้พลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่….จะใช้เวลามากในการก่อสร้าง กลุ่มวิศวกรและพนักงานต้องมีประสบการณ์ มีฝีมือ ค่าใช้จ่ายการบริหารและค่าแรงสำหรับโครงการที่ออกแบบซับซ้อนจะสูงกว่าค่าใช้จ่ายของโครงการธรรมดา
ลักษณะพิเศษของประเภทการผลิต
ประเภทการผลิต ความต้องการพิเศษของการผลิตก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายการก่อสร้างโรงงาน โรงงานผลิตอิเล็กทรอนิกส์มีความต้องการมากมายเกี่ยวกับไฟฟ้าสถิต ห้องบริสุทธิ์ ดังนั้นวัสดุก่อสร้างก็เป็นวัสดุที่ดิเศษ เช่น สีพื้น epoxy ป้องกันไฟฟ้าสถิตหรือกระเบื้อง vinyl…..โรงงานประเภททำอาหาร ยาจะมีความต้องการเคร่งครัดในเรื่องอุณหภูมิ ความชื้น การทำโครงสร้างพื้นฐาน ทำพื้น ระบบระบายน้ำ ระบายอากาศ…ของโรงงานต้องผ่านมาตรฐาน GMP, HACCP/ISO 22000…..ดังนั้นราคาก่อสร้างของโรงงานประเภทนี้จะสูงกว่าโรงงานธรรมดา
ข้อกำหนดเกี่ยวกับวัสดุ วัตถุดิบก่อสร้าง
ในการก่อสร้างโรงงาน ค่าใช้จ่ายวัสดุ วัตถุดิบก่อสร้างตัดสินใจ 60% ค่าใช้จ่ายการลงทุนก่อสร้างโรงงาน เป็นวัสดุ วัตถุดิบก่อสร้างเหมือนกันแต่จะมีหลายยี่ห้อให้เลือก หลายประเภทให้พิจารณา มีวัสดุคุณภาพเยี่ยม มีวัสดุที่คุณภาพปานกลางแต่ราคาถูก….ขึ้นอยู่กับความต้องการความพิถีพิถันของผู้ลงทุนในการเลือกวัสดุ วัตถุดิบก่อสร้าง จากนั้นส่งผลต่อราคาก่อสร้างโรงงาน
ข้อกำหนดในระยะเวลาดำเนินการ
ระยะดำเนินการโครงการมักจะรวดเร็ว เฉลี่ยจาก 3-6 เดือน อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีผู้ลงทุนต้องการลดเวลาดำเนินการลง เพิ่มจำนวนคนทำงานกลางคืน ทำงานในระยะเวลาที่เริ่งรีบ….ซึ่งผู้รับเหมาก่อสร้างต้องพยายามจัดการทั้งเรื่องแรงงาน เรื่องเครื่องจักรและวิธีการจัดการหน้างาน ดังนั้นทำให้ราคาการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมถูกดันให้สูงกว่าโครงการธรรมดา
นอกจากนั้น ระยะเวลาดำเนินการล่าช้าก็เกิดความเสี่ยงปรนัย เช่น ราคาในตลาด แรงงาน…..ระยะเวลาดำเนินการยิ่งล่าช้าค่าบริหารโครงการจะยิ่งสูง ทำให้ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้น
ดังนั้น กำหนดระยะเวลาดำเนินการอย่างเหมาะสมจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายการก่อสร้างให้กับผู้ลงทุน ระยะเวลาดำเนินการเหมาะสมคือเมื่อผู้รับเหมาคำนวณระยะเวลาดำเนินการโครงการโดยทั้งหมดบนพื้นฐานระยะเวลาใช้วัสดุและแรงงาน โอนย้ายวัสดุและแรงงานระหว่างงานแต่ละงานในโครงการให้เข้ากันได้พอดี รักษาการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงปัญหารวมคนและวัสดุเข้ามาในช่วงเวลาเดียวกัน
ปัจจัยธรณีวิทยา
ปัจจัยธรณีวิทยาส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายทำฐานรากโดยตรง ได้แก่การตอกเสาเข็ม ทำฐานราก ตบพื้นแน่น…..พื้นดินยิ่งไม่แข็งแรง โดยเฉพาะพื้นดินใกล้แม่น้ำที่มีชั้นดินโคลนหนา การตอกเสาเข็ม -ฐานรากต้องยิ่งลึกเพื่อจะถึงชั้นดินมีความแข็งแรงพอเพื่อรับน้ำหนักตามเวลา ในกรณีอย่างนี้ค่าใช้จ่ายการตอกเสา ทำฐานรากโรงงาน ปรับพื้นดินจะยิ่งสูง
ผู้รับเหมาทั่วไปที่มีประสบการณ์ ด้วยการประเมินปรนัยที่ค่อนข้างถูกต้องเกี่ยวกับธรณีวิทยาของแต่ละพื้นที่จะเป็นผู้ให้คำปรึกษาก่อสร้างที่น่าเชื่อถือ เสนอราคาที่เหมาะสมที่สุดให้กับผู้ลงทุน
ความสามารถของผู้รับเหมา
ผู้รับเหมาแต่ละเจ้าจะมีความสามารถ วิธีการ โซลูชั่น ขั้นตอนบริหารภายใน บริหารคุณภาพที่แตกต่างกันทำให้ราคาที่เสนอมาก็ไม่เหมือนกัน
ผู้รับเหมาทั่วไปที่มีกลุ่มวิศวกรมีประสบการร์มากมาย มีความสามารถบริหารโครงการได้ดีก็จะมีราคาก่อสร้างสูงกว่าผู้รับเหมาเจ้าอื่นแต่คุณภาพดี ทำงานตรงตามเวลาที่กำหนด ช่วยโรงงานผลิตได้ต่อเนื่อง ประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งานและซ่อมแซมปรับปรุงในอนาคต